ข้อมูลประกาศ 001020
  • 600 บาท
ข้อมูลติดต่อ
  • myhomehealthy
  • เขตวังใหม่ สมุทรปราการ
  • 0898999122
  • 20 พ.ย. 2556 17:49 น.

โปร โคเอนไซม์คิวเท็น พลัส Pro Co-enzyme Q10 Plus ช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเ

สินค้ารายการนี้: เสริมสวย สุขภาพ อาหารเสริม
Coenzyme Q10 | โคเอนไซม์ คิวเท็น

- เป็นสารที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant) โดยจะไปป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่จะทำให้อนุมูลอิสระซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง

- CoQ10 พบมากที่ผิวหนังชั้นนอก (epidermis)มากกว่าที่ผิวหนังชั้นใน(dermis)ซึ่งเป็น ผิวหนังชั้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากรังสี UVA จึงช่วยขจัดอนุมูลอิสระ (free radical) ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคลํ้า

- หน้าที่หลักของ CoQ10 คือช่วยในการเร่งปฏิกิริยาผลิตพลังงานภายในร่างกายทั้งหมดหากเซลล์ผิวหนัง ได้รับพลังงานไม่เพียงพอก็จะทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติก็จะทำให้ผิวหนังเหี่ยว ย่นก่อนวัยอันควร

- CoQ10มีการสังเคราะห์มาจากกรดอะมิโนที่ชื่อ ไทโรซีน (tyrosine) และฟีนีลอะลานิน (phenylalanine) โดยกรดอะมิโนทั้ง 2 ตัวนี้ จะสร้างส่วนวงแหวนควิโนน (quinone ring) ส่วนสายยาว (side chain) สร้างมาจากอะซีติลโคเอ (acetyl CoA)โดยอาศัยกระบวนการในร่างกายหลายขั้นตอนร่วมกันกับวิตามิน 7 ชนิด คือ วิตามินบี 2 (riboflavin) วิตามินบี 3 (niacinamide) วิตามินบี 6 กรดโฟลิก (folic acid) วิตามินบี 12 วิตามินซี และกรดแพนโททีนิก (pantothenic acid)

** ไทโรซีน (tyrosine) ช่วยให้เซลล์แก่ช้าและควบคุมโปแธลลามัสส่วนใต้ของสมอง

** ฟีนีลอะลานิน (phenylalanine) ช่วยการทำงานของต่อมธัยรอยด์ เป็นฮอร์โมนที่ประกอบด้วยไอโอดีนทำให้รู้สึกสดชื่นตื่นตัว อารมณ์ดี ลดความซึมเศร้า ช่วยไม่ให้ผิวแห้งตกกระ รวมทั้งป้องกันผิวหนังอักเสบจากการแพ้แสงแดด

โคเอนไซม์ คิวเทน โดยทั่วไปเรามักรู้จักกันในส่วนผสมของเครื่องสำอาง เพื่อถนอมผิวพรรณ ลดริ้วรอยหรือชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว แต่ในทางการแพทย์แล้ว พบว่า โคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารที่พบได้โดยปกติในร่างกายเรา ไม่ได้พบเฉพาะในเครื่องสำอางเท่านั้น และยังมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตของเราอีกด้วย



โคเอนไซม์ คิวเทน มีความสำคัญต่อระบบหัวใจและสมองของเราอย่างไร
ในปี คศ. 1957 ได้มีการค้นพบ โคเอนไซม์ คิวเทน ในทุกเซลของร่างกายที่มีชีวิต ซึ่งร่างกายเราสามารถสร้างได้เอง และมีความสำคัญในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ ทำให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ พบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง โดยเฉพาะหัวใจ สมอง ตับ ไต ซึ่งหากขาดโคเอนไซม์ คิวเทน จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานไปอย่างมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลง หรือเซลล์สมองทำงานผิดปกติ นอกจากความสำคัญในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ต่างๆ แล้ว ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ อีกด้วย
โคเอนไซม์ คิวเทน ได้จากอาหารแหล่งใดบ้าง
เราสามารถพบ โคเอนไซม์ คิวเทน จากอาหารต่างๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง แต่ในระหว่างการปรุงอาหารโดยใช้อุณหภูมิสูง เช่น การปิ้ง ทอด ย่าง ซึ่งทำให้ โคเอนไซม์ คิวเทน ถูกทำลายไป การได้รับ โคเอนไซม์ คิวเทนจากอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย




ภาวะที่พบว่ามีปริมาณ โคเอนไซม์ คิวเทน ลดลง

1. การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มสแตติน

2. ผู้ ป่วยโรคต่างๆ เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคเอดส์ โรคไต โรคเหงือกอักเสบ โรคสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน

3. ภาวะที่ร่างกายมีความเครียด เช่น ทำงานหนัก , พักผ่อนน้อย , ขาดอาหาร , มีการติดเชื้อ

4. ร่างกายมีการใช้มากเกินไป ในบางภาวะ เช่น การออกกำลังกาย การเผาผลาญที่มากผิดปกติ อาการช็อกเฉียบพลัน

5. วัยที่เพิ่มขึ้น ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างโคเอนไซม์ คิวเทน ได้ในปริมาณสูงสุด เมื่ออายุ 20 ปี หลังจากนั้น ปริมาณจะลดลลง เช่น เมื่ออายุ 40 ปี พบเพียง 64% อายุ 80 ปี พบเพียง 36%

6. ได้รับจากมื้ออาหารน้อยเกินไป




ผลการศึกษาทางการแพทย์ถึงประโยชน์ของโคเอนไซม์ คิวเทน มีดังนี้
1. ช่วยลดผลข้างเคียงของยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มสแตติน จาก การวิจัยพบว่า ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มดังกล่าว ทำให้ปริมาณโคเอนไซม์ คิวเทนในร่างกายลดลง เนื่องจากขั้นตอนการออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างไขมันคลอเลสเตอรอล จะมีผลยับยั้งการสร้างโคเอนไซม์ คิวเทน ไปด้วย นำไปสู่การขาดโคเอนไซม์ คิวเทน ซึ่งอาการเริ่มแรกจะสังเกตได้จากการมีภาวะกล้ามเนื้อแขน ขาอ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ หากรุนแรงจะมีผลกระทบกับอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับทำงานผิดปกติได้ ผลกระทบดังกล่าวจะพบได้มากขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ที่ใช้ยาปริมาณสูง ผู้ที่ใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวอื่น ๆ อยู่ก่อน และพบว่าเมื่อให้โคเอนไซม์ คิวเทนเสริม จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้




2. ประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด จาก ความสำคัญของ โคเอนไซม์ คิวเทน ในการสร้างพลังงานของเซล และการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องและชะลอการเสื่อมของเซลต่างๆ ทั่วร่างกาย จึงมีการนำมาใช้ เพื่อประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยพบว่าช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น อาการของโรคหัวใจดีขึ้น ความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงลดลง




3. ประโยชน์ต่อสมอง จากการศึกษาพบว่า ระดับ โคเอนไซม์ คิวเทน ในสมองของคนเราจะเริ่มลดลงเมื่ออายุ 20 ปี ขึ้นไป ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน ซึ่งพบว่าผู้ป่วยดังกล่าวจะมีปริมาณ โคเอนไซม์ คิวเทน ในสมองลดลง และเมื่อให้ โคเอนไซม์ คิวเทน แล้ว ช่วยให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น และยังช่วยชะลอการดำเนินของโรคให้ช้าลงได้อีกด้วย




4.ประโยชน์ด้านความงามลดริ้วรอย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง (Anti-aging/Skin care) ผิวหนังมีหน้าที่ในการป้องกันสารพิษ เชื้อโรค และรังสีอัลต้าไวโอเลต(Ultraviolet) จากแสงอาทิตย์ โดยรังสีอัลตร้าไวโอเลตนี้มี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB แต่ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอยจะเป็นรังสี UVA โดย UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ และจะเริ่มต้นในการสร้างอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งอนุมูลอิสระนี้เป็นผลิตผลที่เกิดขึ้นจากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นนี้ก็จะทำอันตรายต่อไขมัน โปรตีน และสารพันธุกรรม(DNA) ในเซลล์ผิวหนัง รวมถึงทำให้เกิดการทำลายของ คอลลาเจน(Collagen) และโครงสร้างอื่นๆของผิวหนัง สูญเสียความยืดหยุ่น ขาดความกระชับเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ CoQ10 เป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) โดยจะไปป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่จะทำให้อนุมูลอิสระซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง นอกจากนี้ CoQ10 พบมากที่ผิวหนังชั้นนอก(Epidermis)มากกว่าที่ผิวหนังชั้นใน(Dermis)ซึ่งเป็น ผิวหนังชั้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากรังสี UVA จึงเป็นข้อดีอีกประการที่จะช่วยขจัดอนุมูลอิสระ(Free radical) ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ




5. ประโยชน์ด้านอื่นของโคเอนไซม์ คิวเทน
นอกจากมีประโยชน์ต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด สมอง และช่วยลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลกลุ่มสแตตินแล้ว โคเอนไซม์ คิวเทน ยังช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากรังสียูวี และชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวเราได้อีกด้วย

ผู้ที่เหมาะสมในการบริโภค
1. ผู้ที่ใช้ยาลดไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มสแตติน
2. ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ

3. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
4. ผู้ที่มีภาวะการทำงานของสมองผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ , ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
5. ผู้ที่ต้องการเสริมเพื่อป้องกันโรคจากความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกาย
6. ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ

คำแนะนำในการรับประทานโคเอ็นไซม์คิวเท็น

ปริมาณ ของโคเอ็นไซม์คิวเท็นที่แนะนำให้รับประทานเสริมสุขภาพทั่วไปคิอไม่เกิน 30 มิลิกรัมต่อวัน โดยแนะนำให้รับประทานหลังอาหารประมาณ 30 นาที และสามารถปรับขนาดเพิ่มขึ้นได้ตามความเหมาะสม ซึ่งรายงานจาการวิจัยที่ยืนยันความปลอดภัยของโคเอ็นไซม์คิวเท็นเห็นว่า สามารถรับประทานได้สูงถึงวันละ 300 มิลลิกรัม และเนื่องจากโคเอ็นไซม์คิวเท็นสามารถลายได้ดีในไขมัน จึงแนะนำให้รับประทานโคเอ็นไซม์คิวเท็นกับอาหารประเภทที่มีไขมันเป็นส่วน ประกอบ เพื่อให้มีการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้นและเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดในการรับ ประทานอาหารเสริมโคเอ็นไซม์คิวเท็น

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล ต่อวัน หลังอาหารเช้า

ขนาดบรรจุ 30 แคปซุล

คำเตือน

- เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ควรทานอาหารให้หลากหลายให้ครบ 5 หมู่

- ไม่มีผลในการป้องกันรักษาโรค




เลขที่ อย.12-1-06753-1-0005

รายละเอียดสินค้า โปร โคเอนไซม์คิวเท็น พลัส Pro Co-enzyme Q10 Plus ช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเ

ข้อมูลติดต่อ
  • myhomehealthy
  • เขตวังใหม่ สมุทรปราการ
  • 0898999122
  • 20 พ.ย. 2556 17:49 น.


คำเตือน!! อย่าโอนเงิน มัดจำล่วงหน้า ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ควรนัดเจอกัน พื้นที่โล่ง ไม่ไปคนเดียว และตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงินทุกครั้งที่มีการซื้อขาย