สินค้ารายการนี้: เสริมสวย สุขภาพ อาหารเสริม
Hi-Balanz Reishi Extract 30 Capsules 300 mg.
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดจากเห็ดหลินจือ 30 แคปซูล
(1 แคปซูล เท่ากับการรับประทานเห็ดหลินจือ 1.5 กรัม)
อย. เลขที่ 10-1-04741-1-0807
สั่งซื้อได้ที่ --> http://www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=32
วิธีรับประทาน วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น
Reishi Extract สารสกัดจากเห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่มีประวัติอันยาวนาน ในวงการแพทย์แผนจีนเกือบ 30% ของยาสมุนไพรจีน
จะต้องมีเห็ดหลินจือเป็นส่วนผสม สาร “Ganoderma Polysaccharide” ในเห็ดหลินจือ
มีคุณสมบัติโดดเด่นต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด
ตลอดจนระบบการทำงานของตับและไต ซึ่งมีงานวิจัยต่างๆ พบว่าเห็ดหลินจือสีแดง
มีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุดในบรรดาเห็ดหลินจือทั้งหมด
เห็ดหลินจือเป็นยาจีนโบราณมานานนับพันปี จัดเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์บำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ
ทำให้มีกำลัง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ สรรพคุณอื่นๆ ได้แก่
ต้านมะเร็ง รักษาโรคของตับ ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย ช่วยย่อย
รักษาหลอดลมอักเสบ โรคปอด และโรคข้ออักเสบ
เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ
“เสินหนงเปินเฉ่า” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนมีคนนับถือมากที่สุด ได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือเป็น
“เทพเจ้าแห่งชีวิต” (Spiritual essence) มีพลังมหัศจรรย์ บำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุออกไปให้ยืนยาว
ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ชาวจีนโบราณต่างยกย่องเห็ดหลินจืออย่างเหนือชั้น
ว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน นอกจากจะมีสรรพคุณเหนือชั้นกว่าแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษใดๆ ต่อร่างกาย
ในเห็ดหลินจือแดงมีสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 250 ชนิด ซึ่งสารต่างๆ เหล่านี้
ทำงานประสานกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้ร่างกายเกิดความสมดุลเพิ่มพลังในการป้องกันและบำบัดโรค
คืนพลังการฟื้นฟูร่างกายที่ธรรมชาติเคยมอบให้กับมนุษย์
หากจะอธิบายให้เข้าใจยิ่งขึ้นก็ต้องบอกว่า เห็ดหลินจือแดง
สามารถฟื้นฟูอาการป่วยได้หลายโรค ซึ่งในเชิงเภสัชวิทยา
เห็ดหลินจือแดงออกฤทธิ์ต่อ 5 ระบบ คือ
1. ระบบภูมิต้านทาน มีการศึกษาพบว่าในเห็ดหลินจือแดงมีสารโพลีแซคคาไรด์
ที่ช่วยยืดเวลาเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาวในการจัดการกับไวรัส
แบคทีเรีย เชื้อรา และเซลล์ก่อมะเร็ง ดังนั้นจึงช่วยให้ร่างกายสามารถจัดการกับอาการผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกัน
มีผลดีต่อผู้เป็นภูมิแพ้ เบาหวานที่แผลหายยาก เป็นหวัดเจ็บคอบ่อย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง
2. ระบบหลอดเลือด เห็ดหลินจือแดง มีผลต่อช่วยขยายหลอดเลือด ลดการทำลายของสารอนุมูลอิสระ
ที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว มีผลช่วยลดการเกาะตัวของไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือดในหลอดเลือด
ส่งผลให้ช่วยชะลอความแก่ไม่เพียงแต่ผิวพรรณเต่งตึงเท่านั้น แต่ชะลอการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายใน
เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น โดยเฉพาะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างจากสารสำคัญที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือแดง เช่น Sterols, Ganoderic Acid ที่มีอยู่เฉพาะในเห็ดหลินจือแดงเท่านั้น
3. ระบบประสาท เห็ดหลินจือแดงจัดเป็นสารปรับสมดุล ซึ่งหมายถึงสารที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพปกติจากสิ่งต่างๆ
โดยสามารถลดความตึงเครียดในสมอง ช่วยให้ระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำงานดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองสูงถึง 1.5 เท่า
4. ระบบต่อมไร้ท่อ ไม่ว่าจะเป็นต่อมไทรอยด์ ต่อมไทมัส ต่อมหมวกไต ต่อมลูกหมาก และที่มองข้ามไม่ได้
คือ ตับอ่อนที่หลั่งฮอร์โมนอินซูลิน พบว่าเห็ดหลินจือแดงมีสารสำคัญที่ช่วยให้การทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ เกิดความสมดุล
เช่น ผู้เป็นเบาหวานเมื่อรับประทานเห็ดหลินจือแดงจะมีสภาวะของร่างกายดีขึ้น
ลดอัตราความรุนแรงของสภาวะขึ้นๆ ลงๆ ของน้ำตาล เป็นต้น
ที่สำคัญเห็ดหลินจือแดงมีสารที่ช่วยให้ต่อมใต้สมองหลั่งโกรท ฮอร์โมน (Growth Hormone) ในขณะที่หลับ
ช่วยเร่งการเจริญเติบโตในเด็กและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่ หรือฟื้นความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้แก่เราได้
5. ระบบล้างสารพิษ หรือขับสารตกค้างที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งอวัยวะที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด ก็คือ ตับ
โดยเห็ดหลินจือแดงจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ ในการทำหน้าที่กำจัดสารพิษ สร้างน้ำดี ช่วยให้อาหารประเภทไขมันถูกย่อย
และดูดซึมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังขับกรดยูริก น้ำตาล ไขมัน สารก่อมะเร็งและสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย
ด้วยการขับออกทางระบบขับถ่ายทุกระบบของร่างกาย เช่น อุจจาระ ปัสสาวะ และทางเหงื่อ เป็นต้น
ที่สำคัญยังช่วยบำรุงไตให้ไตทำงานได้ดีขึ้น หรือในบางรายที่เป็นโรคไตเรื้อรัง ก็ยังช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตด้วย
ปริมาณเห็ดหลินจือที่แนะนำในการรับประทาน
• เพื่อบำรุงสุขภาพ ใช้เห็ดหลินจือแห้งวันละไม่เกิน 6 กรัม/วัน หรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 0.01-0.5 กรัม / วัน
(เท่ากับการรับประทาน Hi-Balanz Reishi Extract วันละ 1 แคปซูลหลังอาหาร)
• เพื่อบำบัดโรคทั่วไป ใช้เห็ดหลินจือแห้งวันละ 3-6 กรัม/วัน หรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 0.5-2 กรัม/วัน
(เท่ากับการรับประทาน Hi-Balanz Reishi Extract วันละ 2-4 แคปซูลหลังอาหาร)
• เพื่อบำบัดโรคมะเร็ง ใช้เห็ดหลินจือแห้งวันละ 9-15 กรัม/วัน หรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 2 กรัม/วัน
(เท่ากับการรับประทาน Hi-Balanz Reishi Extract วันละ 6-10 แคปซูลหลังอาหาร)
อ่านคำเตือนบนฉลากก่อนบริโภค
ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
การล้างพิษ ในแบบของเห็ดหลินจือ (Reishi Extract Detoxification)
ความเด่นของเห็ดหลินจือ คือ การล้างพิษ สารสำคัญต่างๆ ในเห็ดหลินจือจะกระจายไปทั่วร่างกาย
เพื่อขับไล่พิษ สารพิษ สารตกค้างที่ทำให้เกิดโรค เช่น กรดยูริก น้ำตาล ไขมัน สารก่อมะเร็ง
หรือสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกายด้วยการขับออกทางระบบขับถ่ายทุกระบบของร่างกาย
เช่น ทางผิวหนัง ทางปัสสาวะอุจจาระ ทางเหงื่อ เป็นต้น
กระบวนการล้างพิษของหลินจือ อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ รู้สึกวูบวาบ ไปทั้งตัว
มีไข้ ปวดตามข้อ ท้องเสีย น้ำมูกไหล ไอ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ มักจะเกิดตั้งแต่เริ่ม รับประทานหลินจือ
เกิดอยู่นาน 3-4 วัน เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้ท่านเข้าใจผิดว่าหลินจือมีผลข้างเคียงหรือมีอาการอันไม่พึงประสงค์แก่ร่างกาย
ไม่เป็นผลดีแก่ร่างกาย หากท่านเข้าใจเช่นนั้นก็จะหยุดรับประทาน และเป็นที่น่าเสียดายที่ท่านได้พลาดโอกาสอันสำคัญ
ที่จะรู้จักสมุนไพรอันมหัศจรรย์ชนิดนี้เพราะอาการต่าง ๆ เหล่านี้ จะหายไปเองภายในเวลาประมาณ 2 อาทิตย์
หลังจากที่ทานหลินจือติดต่อกันหรือเมื่อหลินจือขับพิษออกจากร่างกายจนร่างกายเริ่มฟื้นฟู
และสามารถปรับสภาพในการรับสมุนไพรเข้า สู่ร่างกายได้แล้ว
ดังนั้นผู้รับประทานหลินจือ จึงไม่ควรตกใจและต้องทำความเข้าใจว่าอาการต่างๆ
ที่เกิดขึ้นว่ามิใช่อาการแพ้หรือผลข้างเคียง (Side Effect) ของหลินจือ ไม่ควรหยุดรับประทาน
แต่ควรที่จะดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อช่วยให้กระบวนการล้างพิษมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญสำหรับผู้ที่
ทานยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่ควรหยุดยาของแพทย์ แต่ควรรับประทานหลินจือหลังจากทานยาแผนปัจจุบันไปแล้วประมาณ 1 ช.ม
ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายในการบำบัดโรคตามแนวทางทฤษฎี “การแพทย์ผสมผสาน"
16 อาการบ่งบอกโรคเมื่อเริ่มทานเห็ดหลินจือ
1. มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน - ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี
2. ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันสูง
3. มึนทั้งหัว พร้อมกับเวียนหัวด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง
4. มีขี้ตาออกเป็นก้อน - สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี
5. น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย - สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี
6. ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม
7. น้ำมูกใส ๆ ไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน - เป็นภูมิแพ้, โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ
8. เสมหะมาก คอแห้งผาก - ระบบหลอดลม, ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน
9. หายใจถี่มาก ใจสั่น - มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
10. จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก - กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี
11. จุกด้านหลัง, ท้องอืด, อึดอัด - ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี
12. ปวดเอว - เป็นโรคไต, ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี
13. ปวดหัวเหน่า - มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม
14. ปวดสะโพก เข่า ข้อเท้า อย่างมาก - สภาวะกรดยูริคสูง โรคเก๊าท์
15. ปวดข้อส่วนบน หรือข้อนิ้ว – โรครูมาตอยท์
16. ปวดร้อนร่างกายท่อนบน ร้อนตัววูบวาบ – ระบบหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี
E-Mail : info[At]hibalanz.com
Tel : 02-612-9170, 086-332-0700
Website : http://www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=32