สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
14-22 ต.ค.'57,16-24 ต.ค.'57 ราคา 102,900 บาท
วันแรก (1) กรุงเทพฯ
21.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์
เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก และเอกสารแก่ท่าน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026
วันพฤหัสบดีที่ 16 ต.ค 2557 (2) เวียนนา – ซาเกรบ (โครเอเชีย) – โอพาเทีย
05.35 น. เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
07.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย กรุงซาเกรบ โดยเที่ยวบินที่ OS 681
07.50 น. เดินทางถึง สนามบิน PLESO INTERNATIONAL AIRPORT หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกรบ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี เดินชมเขตเมืองตอนบนและตอนล่าง ที่เชื่อมกันด้วยรถราง FUNICULAR ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป พาท่านนั่งรถรางสู่ตอนบนของกรุงซาเกรบ/ ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร / จากนั้นนำท่านชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก / นำท่านเข้าชม มหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ เชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ โอพาเทีย (Opatija) เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค” ชื่อเดิมของเมืองนี้ คือ ABBAZIA แต่ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเล
อาเดรียติค ที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทำให้โอพาเทีย เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย นำท่านชมตัวเมือง แวะถ่ายรูปกับรูปปั้น นางแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีเวลาอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านได้เดินชมเมืองโอพาเทีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง/ นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Milenij หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันศุกร์ที่ 17 ต.ค 2557 (3) โอพาเทีย – พูล่า – โรวินจ์ – โอพาเทีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ พูล่า (Pula) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะตามแนวหน้าผา ผ่านชมท้องทะเลสีครามสวยงามที่สุด โดยตรงข้ามจะมีเกาะใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะ KRK และ เกาะ CRES / เดินทางถึง พูล่า หรือ โพล่า ในภาษาอิตาเลี่ยน เมืองพูล่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางของคาบสมุทร
อิตาเลียน เมืองพูล่าเคยเป็นเมืองเป็นศูนย์กลางของแหลมอิสเตรีย และเคยเป็นดินแดนของประเทศอิตาลี ทำให้มีผู้คนใช้ภาษาอิตาเลี่ยน กันอย่างแพร่หลาย แม้กระทั่งตามป้ายจราจร/
นำท่านเข้าชมสิ่งก่อสร้างในสมัยโรมันที่ใหญ่ ที่ยังคงเหลือเป็นอนุสรณ์และสำคัญที่สุดคือ สนามอารีน่า (ARENA) หรือ AMPHITHEATER สนามกีฬากลางแจ้ง ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคลอสเซียม ที่กรุงโรม นับเป็นอารีน่าที่ใหญ่เป็นอันดับหก ที่สร้างขึ้นในยุคโรมันเรืองอำนาจ จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโรมันอย่างเดียวกับโคลอสเซียมของกรุงโรม สามารถจุผู้คนได้ถึง 22,000 คนโดยผ่านทางเข้าออก 20 ช่องทาง อารีน่าที่เห็นในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพตามช่วงศตวรรษที่ 15 ที่มีการนำหินไปสร้างปราสาทและเมือง ในปัจจุบันมักใช้เป็นสถานที่จัดงานโอเปร่า และดนตรีอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานภาพยนตร์ประจำปีอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ โรวินจ์ (Rovinj) ระยะทาง 40 กิโลเมตร เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน ทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้นั้นมีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก ชมอาคาร บ้านเรือนและตรอกซอยขนาดเล็ก ที่พื้นปูด้วยหินก้อนเล็ก เมืองที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหาร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินเมือง โรวินจ์ ที่สวยงาม เดินชม โบสถ์
St. Euphemia ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้น นำท่านชมเขตเมืองเก่า (Old Town)
ที่เต็มไปด้วยความงดงามของตึกรามบ้านช่องที่เรียงเป็นแนวยาวในตรอกเล็กๆ ริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติก
ซึ่งบริเวณเมืองเก่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะแยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ แต่ได้มีการถมทะเลเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัยจนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโอพาเทีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Milenij หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่สี่ (4) โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ / นำท่านทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและ น้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง
ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วย หุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวใน อุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ)…
นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Plitvice หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน / รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
*** บริเวณอุทยานแห่งชาติมีที่พัก เพียง 2-3 ดาว เท่านั้น ***
วันที่ห้า (5) อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ – ซีบีนิค – โทรเกียร์ UNESCO – สปลิท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองซีบีนิค (Sibenik) นำท่านชมตัวเมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนสซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี ชมสภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 / นำท่านชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ หรือ เซนต์
จาคอบ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัวงดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ โทรเกียร์ (Trogir) เมืองมรดกโลก ระหว่างทางแวะชมเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโครเอเชีย คือ เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่องให้ชาวเมืองนี้เป็นชาวเมืองที่มีความอดทนมาก ต่อการใช้ชีวิตเนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทำการเกษตรกรรม ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเมืองที่สวยงามนี้...นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหิแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า.. / นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองสปลิท (SPLIT) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้ม สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Atrium หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่หก (6) สปลิท – โอมิช – มาลี สตอน – ชิมหอยนางรม – นีอุม (บอสเนีย) – ดูบรอฟนิค – KONZUM
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ
ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน แบบพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลี สตอน (MALI STON) นำท่านเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยไวน์สด จนได้เวลา
***(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง)***
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ดูบรอฟนิค เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย ท่านจะได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ ประเทศบอสเนีย (แวะถ่ายรูป) ที่เรียกว่า เมืองนีอุม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชาการส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย.ต่อด้วยนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นดัลเมเทีย (Dalmatia) ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศบอสเนีย เฮอรเซโกวีน่า…นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค เมืองทางตอนใต้และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด
อีกทั้งเป็นที่จอดเรือสำราญขนาดใหญ่
ค่ำ นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก / รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก Hotel Admiral หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่เจ็ด (7) ดูบรอฟนิค – ชาฟตัท - ล่องเรือในทะเลอาเดรียติค – กำแพงเมืองโบราณ – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชาฟตัท เมืองน้อยน่ารัก เป็นเล็กทางตอนใต้สุดของโครเอเชีย ที่เหล่ามหาเศรษฐีนิยมมาพักผ่อนและนำเรือยอร์ชมาเทียบท่า อิสระเดินเล่นชมเมืองชาฟตัท เดินทางกลับสู่เมืองเก่าดูบรอฟนิค/
เข้าชมเมืองเก่าดูบรอฟนิค ที่มีกำแพงล้อมรอบยาวกว่า 2 กิโลเมตร จากนั้นนำท่าน ล่องเรือพาโนราม่า เพื่อชมความสวยงามของเมืองเก่า ชมความงดงามของท้องทะเลอะเดรียติค สีน้ำเงินคราม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเดินขึ้นชมกำแพงเมืองโบราณ ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค…
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมแนวกำแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไป ชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างดี
จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน, หอนาฬิกา ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง / อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Admiral หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
***รับชมการแสดงพื้นเมืองสุดพิเศษ “ระบำลาโด้” ***
วันที่แปด (8) ดูบรอฟนิค – กระเช้าไฟฟ้า – ชาฟตัท – เวียนนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่สถานีเพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า ที่ความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามทะเลอะเดรียติค หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองชาฟตัท
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
13.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค (หากมีการทำการคืนภาษีกรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบ
ด้วย)
14.55 น. ออกเดินทางกลับสู่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 732 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.15 นาที)
16.25 น. เดินทางถึง เวียนนา แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
หมายเหตุ ระหว่างรอเครื่องในสนามบินเวียนนา ท่านสามารถซื้อสินค้าในสนามบิน หากราคาสินค้าในบิลเดียวกันเกิน 75 ยูโร สามารถทำภาษีคืนได้ (TAX REFUND) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ INFORMATION สนามบินเวียนนา
23.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS 015
วันที่เก้า (9) กรุงเทพฯ
14.20น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม...