สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
7 – 15 พ.ย. 57
10 – 18 พ.ย. 57
วันแรก (1) กรุงเทพฯ
21.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบิน ออสเตรียน แอร์ไลน์
เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระและเอกสาร
23.55น. ออกเดินทางสู่ เวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026
วันที่สอง (2) เวียนนา (แวะเปลี่ยนเครื่อง) – ซาเกรบ – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ UNESCO
05.35 น. เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
07.00 น. ออกเดินทางสู่ ซาเกรบ โดยเที่ยวบินที่ OS 681
07.50 น. เดินทางถึง สนามบิน PLESO INTERNATIONAL AIRPORT หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
จากนั้นนำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรัอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ณ เมืองคาโลวัช เมืองผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศโครเอเชีย ผ่านชมธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับ ทุ่งหญ้า ฟาร์มเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ชมสายน้ำน้ำตก จากแม่น้ำโคราน่า ณ เมืองรัสต็อคเก้ เป็นเมืองเล็กๆที่มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน แบบพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำ มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เรียงลงไปถึง 16 ชั้น เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
นำท่านเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วย หุบเขา
ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวใน อุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ)…
นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง ชมน้ำตก BIG WATER FALLS เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยาน และนำท่านชมจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลสาบตอนบนและตอนล่างเชื่อมต่อกัน...นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักในอุทยาน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ เมนูอาหารท้องถิ่น
*** บริเวณอุทยานแห่งชาติมีที่พัก เพียง 2-3 ดาว เท่านั้น ***
วันที่สาม (3) อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ - โทรเกียร์ UNESCO – สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน UNESCO
เช้า นำท่านเดินทางสู่ โทรเกียร์ (Trogir) เมืองมรดกโลก ระหว่างทางแวะชมถ่ายรูปจุดชมวิว เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่องให้ชาวเมืองนี้เป็นชาวเมืองที่มีความอดทนมาก ต่อการใช้ชีวิตเนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทำการเกษตรกรรม ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเมืองที่สวยงามนี้...นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหิแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า...
เที่ยง รับประทานอาหารค่ำ แบบพื้นเมือง บนเกาะโทรเกียร์
บ่าย นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองสปลิท (SPLIT) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่ง
ทะเลอาเดรียติค ที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้ม สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ
นำท่านชม พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม
อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
วันที่สี่ (4) สปลิท – นีอุม (บอสเนีย) – มาลี สตอน – ดูบรอฟนิค – ขึ้น กำแพงเมืองโบราณ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ ดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เมืองทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสีครามที่สวยงาม ตลอดสองข้างทาง...นำท่านข้ามพรมแดนเข้าสู่ ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เรียกว่า เมืองนีอุม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครแอต จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าพรมแดนโครเอเชีย อีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลี สตอน (MALI STON) นำท่านเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ
ของการเลี้ยงแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยไวน์สด จนได้เวลา
***(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง)***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค เมืองทางตอนใต้และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด อีกทั้งเป็นที่จอดเรือสำราญขนาดใหญ่ / เดินทางถึง ดูบรอฟนิค นำท่านเดินเที่ยวชมบริเวณ เมืองเก่า (OLD TOWN) ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณ สูงตระหง่าน ที่มีความยาว 2 กิโลเมตร ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติก เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียน มาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้
จากนั้นนำท่านเดิน ขึ้นชมกำแพงเมืองโบราณ ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า ว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ริมทะเลอาเดรียติค
***รับชมการแสดงพื้นเมืองสุดพิเศษ “ระบำลาโด้” ***
ได้เวลาอันสมควร....นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่ห้า (5) ดูบรอฟนิค – ซีบีนิค – โวดิเซ่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ ซีบีนิค (Sibenik) เมืองโบราณในยุคเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของประเทศโครเอเชีย ระหว่างทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสองข้างทาง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหารพื้นเมืองระหว่างทาง
บ่าย เดินทางถึง เมืองซีบีนิค / นำท่านชมตัวเมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนอซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาตี ชมสภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราวสมัย ค.ศ. 15 ชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ หรือ เซนต์ จาคอบ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยน ได้อย่างลงตัวงดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโวดิเซ่ ในแคว้นดัลเมเชีย-ซีบีนิค เมืองโวดิเซ่เป็นเมืองริมทะเลดาเดรียติคที่
สวยงามอีกเมืองหนึ่งของประเทศโครเอเชีย / เดินทางถึง โวดิเซ่ อิสระให้ท่านเดินชมท้องทะเลสีน้ำเงินครามและท่าเทียบเรือยอร์ช ของนักท่องเที่ยว ตามอัธยาศัย
ค่ำ นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก / รับประทานอาคารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
วันที่หก (6) โวดิเซ่ – ซาดาร์ – ซีออแกน – โอพาเทีย (เมืองรีสอร์ท)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ ซาดาร์ (Zadar) เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว และเป็นเมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรทะเลอาเดรียติค และเป็นท่าเรือสู่ประเทศอิตาลี เป็นท่าเรือที่มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ในยุคโบราณ / นำท่านชม ซี ออแกน (Sea Organ) เป็นผลงานการออกแบบที่มีชื่อเสียงของเมืองซาร์ดาร์ โดยศิลปินที่มีชื่อว่า นิโคล่า บาซิช เป็นผลงานด้านเสียงเพลงจากการทำแนวบันไดหินอ่อนเป็นช่องๆ ตามชายฝั่ง แล้วน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่ง ทำให้เกิดเสียงบรรเลงจากธรรมชาติ ชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ลานประชุมกลางเมือง ที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก ชมโบสถ์ เซนต์ โดแนท (St. Donatus Church) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรมันฟอรัม ซึ่งเป็นโบสถ์ไบแซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในเขตดัลเมเชียน
เที่ยง ประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารอาหารไทย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ โอพาเทีย (Opatija) เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค” ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ ABBAZIA แต่ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติค ที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทำให้โอพาเทีย เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย นำท่านชมตัวเมือง แวะถ่ายรูปกับรูปปั้น นางแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีเวลาอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านได้เดินชมเมืองโอพาเทีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด (7) โอพาเทีย – พูล่า – แอมฟิเธียเตอร์ยุคโบราณ – โรวินจ์ – โอพาเทีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ พูล่า (Pula) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะตามแนวหน้าผา ผ่านชมท้องทะเลสีครามสวยงามที่สุด โดยตรงข้ามจะมีเกาะใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะ KRK และ เกาะ CRES / เดินทางถึง พูล่า หรือ โพล่า ในภาษาอิตาเลี่ยน เมืองพูล่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางของคาบสมุทร
อิตาเลียน เมืองพูล่าเคยเป็นเมืองเป็นศูนย์กลางของแหลมอิสเตรีย และเคยเป็นดินแดนของประเทศอิตาลี ทำให้มีผู้คนใช้ภาษาอิตาเลี่ยน กันอย่างแพร่หลาย แม้กระทั่งตามป้ายจราจร / นำท่านเข้าชมสิ่งก่อสร้างในสมัยโรมันที่ใหญ่ ที่ยังคงเหลือเป็นอนุสรณ์และสำคัญที่สุดคือ สนามอารีน่า (ARENA) หรือ AMPHITHEATER สนามกีฬากลางแจ้ง ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคลอสเซียม ที่กรุงโรม นับเป็นอารีน่าที่ใหญ่เป็นอันดับหก ที่สร้างขึ้นในยุคโรมันเรืองอำนาจ จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโรมันอย่างเดียวกับโคลอสเซียมของกรุงโรม สามารถจุผู้คนได้ถึง 22,000 คนโดยผ่านทางเข้าออก 20 ช่องทาง อารีน่าที่เห็นในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพตามช่วงศตวรรษที่ 15 ที่มีการนำหินไปสร้างปราสาทและเมือง ในปัจจุบันมักใช้เป็นสถานที่จัดงานโอเปร่า และดนตรีอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานภาพยนตร์ประจำปีอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ โรวินจ์ (Rovinj) ระยะทาง 40 กิโลเมตร เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน ทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้นั้นมีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก ชมอาคาร บ้านเรือนและตรอกซอยขนาดเล็ก ที่พื้นปูด้วยหินก้อนเล็ก เมืองที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหาร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินเมือง โรวินจ์ ที่สวยงาม เดินชม โบสถ์ St. Euphemia ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้น นำท่านชมเขตเมืองเก่า (Old Town) ที่เต็มไปด้วยความงดงามของตึกรามบ้านช่องที่เรียงเป็นแนวยาวในตรอกเล็กๆ ริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ซึ่งบริเวณเมืองเก่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะแยกตัวออกมาจาก แผ่นดินใหญ่ แต่ได้มีการถมทะเลเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโอพาเทีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่แปด (8) โอพาเทีย – ซาเกรบ (เมืองหลวงโครเอเชีย)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ซาเกรบ (Zagreb) เป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินชมเขตเมืองตอนบนและตอนล่าง ที่เชื่อมกันด้วยรถราง FUNICULAR ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดเด่น ไม่เหมือนใคร / จากนั้นนำท่านชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก / นำท่านเข้าชม มหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ เชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า
นำท่านสู่ย่านเมืองเก่า เดินชมเขตเมืองตอนบนและตอนล่าง ที่เชื่อมกันด้วยรถราง FUNICULAR ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
จากนั้นนำท่านชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก นำท่านเข้าชม มหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ เชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า
17.50 น. ออกเดินทางกลับสู่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 678
18.40 น. เดินทางถึง เวียนนา แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
22.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS 025
วันที่เก้า (9) กรุงเทพฯ
15.05 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม...