สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
22-31 ต.ค.'57 109,900.-
วันพุธที่ 22 ต.ค. 2557 (1) กรุงเทพฯ
21.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์
เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก และเอกสารแก่ท่าน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ เวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026
วันพฤหัสบดีที่ 23 ต.ค. 2557 (2) เวียนนา (ออสเตรีย) – กราซ – คลาเกนเฟิร์ท - เบลด (สโลเวเนีย)
05.35 น. เดินทางถึง สนามบิน VIENNA INTERNATIONAL AIRPORT หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกราซ (GRAZ) เมืองที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม เป็นเมืองบนเนิน ท่านสามารถซึมซับและสัมผัสความสวยงามของภูมิทัศน์และหมู่อาคารบ้านเรือนต่างๆจนทำให้ได้รับการยกเป็นเมืองมรดกโลกด้านสถาปัตยกรรม พร้อมกับถ่ายรูปหอนาฬิกาสัญลักษณ์ของเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านชมเมืองกราซ เมืองศิลปวัฒนธรรมแห่งยุโรป (Cultura City of Europe) ที่มีการผสมผสนระหว่างความคลาสสิคของเมืองเก่าและทันสมัยของเมืองในศตวรรษที่ 20 ได้อย่างลงตัวที่สุด
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ เมืองคลาเก้นเฟิร์ต (Klagenfurt) เดินทางถึง คลาเกรนเฟิร์ท (Klagenfurt) คือ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นคารินเทีย (Carinthia) เป็นรัฐทางใต้สุดของประเทศออสเตรีย ในปี 2008 เมืองคลาเกนเฟิร์ตเคยเป็นหนึ่งในแปดเมืองเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับหกของประเทศอีกด้วย โดยเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลสาบ Worthersee ที่แวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ที่ชื่อว่า Karavanke ได้รับฉายานามว่ากุหลาบแห่งทะเลสาบ Worthersee เมืองนี้เคยถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1544 และถูกสร้างขึ้นใหม่โดยสถาปนิกชาวอิตาลี ดังนั้นลักษณะของเมืองจึงเป็นสไตล์อิตาลีโดยทั่วไป / อิสระให้ท่านได้ชมเมืองที่บริเวณใจกลางเมือง อาคารรัฐสภาแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์มังกร (Dragon Fountain) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ชมจัตุรัสเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของเหล่าอาคารสำคัญๆที่สร้างขึ้นในสไตล์เรอเนสซอง ชมความงดงามของ ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain) ถูกสร้างขึ้นในปี 1593 ปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองอิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบลด (Bled) เมืองเบลด เมืองเล็ก ๆ ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทของโลก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบลดที่งดงาม แวดล้อมด้วยธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ที่เรียกว่า Julian Alps Mountain จึงถูกขนานนามว่าไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบเบลดแห่งนี้โดดเด่นด้วยเกาะกลางทะเลสาบที่น้ำทะเลสาบโดยรอบเป็นสีเขียวมรกต เมืองเบลด เริ่มมีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 เมื่อแพทย์ชาวสวิสชื่อ Dr. Arnold Rivli เห็นคุณค่าของอากาศที่แสนบริสุทธิ์ของเมืองนี้ ได้ย้ายมารักษาคนไข้ที่เมืองนี้และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้เป็นเวลาถึง 50 ปี อีกทั้งนโปเลียนยังเคยใช้เป็นสถานที่พักผ่อนริมทะเลสาบยังมีคฤหาสน์ของติโต อดีตผู้รวมชาติยูโกสลาเวีย ซึ่งใช้เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
วันศุกร์ที่ 24 ต.ค. 2557 (3) เบลด (สโลเวเนีย) – ล่องเรือ – ถ้ำโพสทอยน่า – ลุบเบลียน่า - ซาเกรบ (โครเอเชีย)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่าน ล่องเรือ ในทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงาม ผ่านชมเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11 เล่ากันว่าหากคู่สมรสคู่ใดได้มาโยกระฆังในโบสถ์จะมีชีวิตคู่ยืนยาว โดยเจ้าบ่าวจะต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดมาจากท่าเรือจนถึงประตูโบสถ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ถ้ำโพสทอยน่า /ชมถ้ำโพสทอยน่าโดยการนั่งรถรางไฟฟ้าของทางถ้ำ (15-20 นาที) จากนั้นเดินชมถ้ำซึ่งถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 27 กิโลเมตร ผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำตลอดระยะทาง 5 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่าง ๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิต / ชมความแปลกของ ปลามนุษย์ (Human Fish) ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมากกว่า 10 ล้านคนมาเยือนถ้ำแห่งนี้/ สมควรแก่เวลา...นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองลุบเบลียนา (Ljubljana) เมืองหลวงของประเทศสโลเวเนีย แม้จะเป็นเมืองที่เล็กๆ แต่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศเรียบง่าย สงบเรียบร้อยและเป็นระเบียบ…นำท่านชมเมืองลุบบลิยาน่า โบสถ์ประจำเมือง ต่อด้วยนำท่านสู่จัตุรัสที่เป็นจุดศูนย์รวมของเมือง ท่านจะได้ชมความสวยงามของสะพาน 3 สะพานที่เชื่อมต่อเมืองเข้าด้วยกัน / นำท่านออกเดินทางข้ามพรมแดนสู่ ซาเกรบ (Zagreb) เป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / นำท่านเข้าสู่ที่พัก เทียบเท่าในระดับ 4 ดาว
วันเสาร์ที่ 25 ต.ค. 2557 (4) ซาเกรบ – ชมเมืองเก่า – มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น – คาโรวัช – พิพิธภัณฑ์สงคราม-อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ เจเซร่า (UNESCO)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชมมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น สถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะ ปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์, เซนต์ปอลล์ ฯลฯ ชมอักษรโบราณที่เป็นอักษรภาพที่มีอายุนับพันปี / นำท่านชมเมืองตอนล่าง (Lower Town) จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย แหล่งชุมชนและศูนย์กลางเมืองของชาวซาเกรบ อันเป็นที่รถรางสายสีฟ้าทั้งรุ่นใหม่และเก่า มาประจบกันที่นี่ ชมอนุสาวรีย์ Ban Josip Jolacic ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 ต่อด้วยนำท่านย่าน Flower Square อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ออโธดอก ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในกรุงซาเกรบ นำท่านขึ้น รถรางไฟฟ้า (Funicular) สู่เมืองตอนบน Upper Town เป็นรถรางสายที่สั้นที่สุดในยุโรป โดยใช้เวลาในการขึ้นเพียง 57 วินาที ชมวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิวของเมืองตอนบน ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มประตูหินเป็น ผ่านชมโบสถ์ เซนต์ มาร์ก ที่มีหลังคาสวย แปลกตาไม่เหมือนที่ไหนใดในโลก ต่อด้วยชมประตูโบราณ เป็นที่ตั้งของ Black Modonna ที่รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้ในสมัย ค.ศ. ที่ 19
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์สงครามกลางแจ้ง ณ เมืองคาโลวัช เมืองผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศโครเอเชีย ผ่านชมธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับ ทุ่งหญ้า ฟาร์มเกษตรที่
อุดมสมบูรณ์ / ได้เวลาอันสมควรนำท่านทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO
เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา
ค่ำ นำท่านเข้าสู่ที่พัก / รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
วันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค. 2557 (5) อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ เจเซร่า (UNESCO) – โทรเกียร์ (UNESSCO) –
สปลิท
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติทพลิตวิเซ่ (National Park Plitvice Jezera) ที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา ท่านจะเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น.. นำท่านสู่ท่าเรือ ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) จากนั้นเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่างๆมากมาย นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง และนอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 20 ถ้ำ และยังมี GRADINSKO LAKE ที่ได้ชื่อว่าเป็นส่วนที่สวยที่สุดในอุทยานแห่งนี้ ชม Big Waterfalls เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้ จากนั้นนำท่านสู่จุดพักกลางอุทยานคอยเชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ โทรเกียร์ ที่ได้รับการขนานนามว่า “A LITTLE VENICE” เ มืองโทรเกียร์ (Trogir)เป็นเมืองโบราณบนเกาะเล็กๆที่ถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นป้อมปราการจัตุรัส และกำแพงเมืองไว้เป็นอย่างดีจนได้รับการยกย่องจาก ยูเนสโก้ (UNESCO) ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ปี ค.ศ.1997 / นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 และมหาวิหาร เซ็นต์ ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต / นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองสปลิท (Split) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอะเดรียติคที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้ม สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ...
ค่ำ รับประทานอาคารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
วันจันทร์ ที่27 ต.ค. 2557 (6) สปลิท – พระราชวังดิโอคลีเธี่ย (UNESCO) – โมสตาร์ (บอสเนียแอนด์เฮอเซโกวี
น่า)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
ท่านเที่ยวชมตัวเมืองสปลิท PEOPLE SQUARE ศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหารในศตวรรษที่ 15 / เข้าชม พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน (Diocletian’s Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก / นำท่านชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม ชมยอดระฆังแห่งวิหาร แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาซิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหารชมจัตุรัสประชาชน ชมรูปปั้นของ GREGORY OF NIN ผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง เมนู ปลาแซลม่อนย่าง
นำท่านสู่ เมืองโมสตาร์ (Mostar) เมืองที่เคยถูกระเบิดครั้งใหญ่และโดนผลกระทบในช่วงสงครามระหว่างเซิร์บกับโครแอต โมสตาร์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำเนเรทวา (Neretva) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพรหมแดน กั้นวัฒนธรรมของสองภาษา คือทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจะเป็นส่วนของศาสนาอิสลามคือเป็นส่วนที่เป็นที่ตั้งของสุเหร่าและเตอร์กิสเฮาส์ ส่วนฝั่งตะวันตก
จะเป็นส่วนของศาสนาคริสตร์แบบคาทอลิก อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์และที่อยู่ของพระสงฆ์ ปัจจุบันโมสตาร์เป็นเมืองที่สวยงามและโด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งประเทศของบอสเนีย คำว่า โมสตาร์ มาจากคำว่า “The Bridge Keepers” หรือแปลว่า ชาวโมสตาร์ที่คยดูรักษาสะพานที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำเนเรทว่า
ค่ำ รับประทานอาคารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
วันอังคารที่ 28 ต.ค. 2557 (7) โมสตาร์ – บรากายจ์ – โพซิเทล – มาลี สตอน (โครเอเชีย) – ดูบรอฟนิค
(UNESCO) – กระเช้าไฟฟ้า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินชม ตลาดเทงเก่าแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ชมบ้านแบบเติร์ก (Turkish House) ซึ่ง
เหลืออยู่เพียงไม่กี่หลังในปา ซึ่งเป็นเขตเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษณ์และยกย่องให้เป็นมรดกโลก/นำท่านเดินชมเมือดมสตาร์ ปัจจุบันเจ้าของบ้านยังคงเป็นบอสเนียนเชื้อสายเติร์ก/อิสระเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัยความรุ่งเรืองของจักรวรรดิออสโตร-ฮังกาเรี่ยน / นำท่านออกเดินทางไปทางใต้สู่ เมืองบรากายจ์ (Blagaj) เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของม่น้ำบูน่า (Buna) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากเมืองโมสตาร์ / นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองโพซิเทล (Pocitelj) ห่างจากเมืองบรากายจ์เพียง 25 กิโลเมตรเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เกี่ยวกับด้านสถาปัตยกรรมแบบอิสลามมิค ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตย์ที่หาชมได้ยากยิ่งอีกทั้งเมืองนี้ ยังเป็นเมืองมรดกโลก ที่ยูเนสโก้กำลังบูรณะให้เมืองแห่งนี้กลับมาเป็นดังเดิมเช่นในอดีตกาล เนื่องจากเมืองโพซิเทล เป็นเมืองที่มีตำนาน ประเพณี และเรื่องราว ยาวนานที่สุดในเขตยุโรปตะวันออกเฉียงใต้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน แบบพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลี สตอน (MALI STON) นำท่านเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยไวน์สด จนได้เวลา / นำท่านเดินทางต่อเข้าสู่ เมืองดูบรอฟนิค (DUBROVNIK) เมืองมรดกโลกที่แขวนตัวอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ที่พรหมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า นำท่านลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอเดรียติค ซึ่งท่านจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศริมชายฝั่งทะเล ที่มีบ้าน เรือนหลังคากระเบื้องสีแสด สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ / นำท่านเดินทางสู่สถานีเพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า ที่ความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงามทะเลอะเดรียติค
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ระดับ 4 ดาวหรือ
เทียบเท่า
***รับชมการแสดงพื้นเมืองสุดพิเศษ “ระบำลาโด้” ***
วันอังคาร ที่ 29 ต.ค. 2557 (8) ดูบรอฟนิค – ขึ้นชมกำแพงโบราณ –ชาฟตัท - กอเตอร์ (มอนเตเนโกร) – บุดวา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชม เมืองดูบรอฟนิค ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง / นำท่านเดินขึ้นชมกำแพงเมืองโบราณ ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค
จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column) หอนาฬิกา (Bell Tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง นำท่านเดินเที่ยวชมตัวเมืองโดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (Pile Gate) นำไปสู่ Stradum พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Fountain) ไปจนสุดมุมถนน ล้วนเรียงรายไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ เดินทางสู่เมือง ชาฟตัท
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านข้ามพรมแดนสู่ประเทศมอนเตเนโกร แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า BLACK MOUNTAIN หรือ "ภูเขาสีดำ" ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ คริสเตียน
ปัจจุบันมอนเตเนโกร เป็นประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป เดินทางสู่ เมืองกอเตอร์ (KOTOR) ระหว่างทางท่านจะได้ชมกับธรรมชาติที่สวยงาม...
นำท่านชม ST.TRIPHUN CHURCH โบสถ์นิกายคาทอลิก และ ST.NIKOLA CHURCH โบสถ์นิกายออโทดอกซ์ นำท่านสู่เมือง บุดวา (BUDVA) เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนชายฝั่งอาเดรียติค เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่รอบทะเลอาเดรีตติค มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร”
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
วันพุธ ที่ 30 ต.ค. 2557 (9) บุดวา – พอดกอรีซา – เวียนนา (ออสเตรีย)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชม เมืองบุดวา เมืองติดชายหาดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น ชม ST.JOHN CHURCH โบสถ์คาทอลิกซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของบาทหลวงสมัยก่อน ชม SANTA MARIA CHURCH และ CHURCH OF TRINITY ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่สนามบิน พอดกอรีซา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร
15.00 น. ออกเดินทางสู่ เวียนนา ประเทศออสเตรียโดยเที่ยวบินที่ OS 728
16.40 น. เดินทางถึง เวียนนา เมืองหลวงของประออสเตรีย แวะเปลี่ยนเครื่อง / นำคณะเดินทางเดินทางผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเวียนนา สู่ “ภัตตาคารอาหารจีน” เพื่อรับประทานอาหารค่ำ จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่สนามบิน
23.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS 025
วันพฤหัสบดี ที่ 31 ต.ค. 2557 (10) กรุงเทพฯ
14.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ...