สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
เดินทาง 22-27 ต.ค./05-10 ธ.ค./30 ธ.ค. 57-04 ม.ค.
วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ-มุกดาหาร
1700 คณะพร้อมกัน ที่จุดนัดหมาย ปั๊ม ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ บริการเรื่องสัมภาระ
1800 เดินทางสู่จังหวัดมุกดาหาร เส้นทางผ่านสระบุรี นครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ท่านสามารถขึ้นรถระหว่างทางได้ตลอดเส้นทาง (กรุณาแจ้งเมื่อทำการจองถ้าจะขึ้นรถระหว่างทาง) พักผ่อนบนรถตามอัธยาศัย
วันที่สอง มุกดาหาร-สะหวันนะเขต-เว้
0530 เดินทางถึงจังหวัดมุกดาหาร ให้ท่านพักผ่อน เปลี่ยนอิริยาบถ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และทำภาระกิจส่วนตัว
เช้า รับประทานอาหารในภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อจังหวัดมุกดาหารของไทยเข้ากันแขวงสะหวันนะเขตในลาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเศรษฐกิจตะวันตกตะวันออก ซึ่งเริ่มจากพม่า ผ่านไทย ลาว และสิ้นสุดที่เวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงของธนาคารการพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 1,600 เมตร มีความกว้าง 12 เมตร และมีช่องจราจร 2 ช่อง เปิดใช้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2549 ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าออกฝั่งไทยและลาว จากนั้นเดินทางต่อตามทางหลวงหมายเลข 9 ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า East-West Economic Corridor (EWEC) แปลเป็นไทยได้ว่า ระเบียงเศรษฐกิจระหว่างตะวันออกกับตะวันตก เป็นเส้นทางสายหลักที่เชื่อมโยงพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกจากทะเลอันดามันเข้ากับพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกด้านทะเลจีนใต้ จากลาวเส้นทางนี้ผ่านแขวงสะหวันนะเขตและเข้าสู่เวียดนามผ่านเมืองชายแดนที่มีชื่อว่าลาวบาว เชื่อมไปยังเมืองดองฮาและกวางจิ เข้าสู่เมืองเว้และไปสิ้นสุดที่ชายฝั่งเวียดนามที่เมืองดานัง
เที่ยง รับประทานอาหารในภัตตาคารเมืองพิณ ลาว
บ่าย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองออกฝั่งลาวและเวียดนามที่ด่านลาวบาว ท่านสามารถแลกเงินด่องได้ที่นี่ (1 บาท/ ประมาณ 600 ด่อง) เดินทางสู่ดองฮา เมืองที่ตั้งอยู่แถวแม่น้ำเบนไห่ ในแนวเส้นขนานที่ 17 เป็นแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ที่แบ่งแยกเวียดนามเหนือ-ใต้ ชมอุโมงค์วินห์ม็อก อุโมงค์ใต้ดินที่คนทั้งหมู่บ้านช่วยกันแอบขุดในตอนกลางคืนหรือขุดในขณะที่มีเสียงปืน เสียงระเบิด ขนดินทิ้งทะเลเพื่ออำพรางไม่ให้ข้าศึกรู้ ใช้หลบระเบิดของทหารอเมริกาในปี ค.ศ.1966 ใช้เวลาในการขุด 20 เดือน สามารถจุคนได้กว่า 300 คน ที่อาศัยอยุ่ในอุโมงค์ถึง 5 ปี จากนั้นเดินทางต่อสู่เว้ เมืองเว้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางของเวียดนาม เป็นเมืองของกษัตริย์ในราชวงศ์เหวียน มีป้อมปราการ สุสานกษัตริย์ แม่น้ำซงเฮืองหรือแม่น้ำหอมไหลผ่านกลางเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารในภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก Century Riverside Hotel หรือระดับใกล้เคียง
วันที่สาม เว้-ดานัง-ฮอยอัน
เช้า รับประทานอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมพระราชวังไทฮวา หรือพระราชวังเว้ สร้างในพ.ศ.2348 ในสมัยพระเจ้ายาลอง ใช้เป็นที่รับรองเชื้อพระวงศ์ระดับสูงในนักการทูตต่างประเทศ สถานที่จัดงานฉลองสำคัญๆ ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม เพดาน เสา คาน ผนังตกแต่งด้วยน้ำมันครั่งสีแดงและลวดลายสีทอง มีตำหนักหลายหลัง อุทยาน วัด ศาลเจ้าของจักรพรรดิราชวงศ์เหวียน 7 พระองค์ ตำหนักโกศของราชวงศ์ 9 โกศ สร้างโดยพระเจ้ามิงห์หม่าง พ.ศ.2365 แต่ละโกศเป็นตัวแทนของจักรพรรดิแต่ละองค์ และมีน้ำหนักถึง 2,500 กก และไปชมเจดีย์เทียนหมุ เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มี 7 ชั้น มีรูปเทพเจ้า 6 องค์คอยปกป้องเจดีย์แห่งนี้ รวมทั้งพระพุทธรูปที่ล้อมรอบด้วยกระจกหมดทุกด้านและระฆังขนาดใหญ่หนัก 2,000 กก
เที่ยง รับประทานอาหารในภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่เมืองดานัง โดยลอดอุโมค์ไฮเวิน ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเข้าสู่เมืองดานัง ยาว 6,280 เมตร เป็นอุโมงค์คู่ขนาน อันหนึ่งสำหรับรถไฟ และอันหนึ่งสำหรับรถยนต์ เส้นทางนี้ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากกว่าหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนำท่านชมวัดลินห์อึ๋ง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมความเชื่อ ความศรัทธาของธาตุทั้งห้าและจิตใจของผู้คน ในวิหารใหญ่เป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมและเทพองค์ต่างๆ ตามความเชื่อของชาวบ้านในแถบนี้ และยังมีรูปปั้นปูนขาวเจ้าแม่กวนอิมที่สูง 67 เมตร ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวกว้าง 35 เมตร ยืนหันหลังให้ภูเขาและหันหน้าออกทะเลคอยปกป้องคุ้มครองชาวประมง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฮอยอัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ใกล้ชายฝั่งทะเล เคยเป็นท่าเรือเก่าที่เจริญรุ่งเรืองมากในชื่อไฟโฟ เป็นศูนย์กลางสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก
ค่ำ รับประทานอาหารในภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก Thuy Doung III Hotel หรือระดับใกล้เคียง
วันที่สี่ ฮอยอัน-ดานัง-เว้
เช้า รับประทานอาหารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชมเมืองฮอยอัน เมืองที่เงียบสงบ มีสภาพบ้านเรือนสวยงาม ในปีพ.ศ.2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์และอาคารต่างๆ ภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ...ชมบ้านโบราณบนถนนเหวียนไทฮ็อก มีลักษณะที่โดดเด่นคือทุกหลังจะมีความหลากหลายในโครงสร้างของสถาปัตยกรรมไม่ซ้ำแบบกันเลย ทั้งในด้านศิลปะการแกะสลัก การตกแต่ง การใช้ประโยชน์ สวนและลานภายในบ้าน เป็นการออกแบบและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างลงตัวและสร้างสรรค์ที่สุด ได้รับอิทธิพลจากจีน ญี่ปุ่น ผสมผสานกันอย่างน่าตื่นตาทั้งบ้านเรือน วัดวาอาราม เจดีย์ ศาลาประชมคม ศาลเจ้า บ้านประจำตระกูล และร้านค้าต่างๆ ... เดินชมไปเรื่อยๆ จะผ่านไปยังย่านที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองบนถนนเลเลย ติดกับแม่น้ำทูโบน เป็นถนนสายแรกที่สร้างขึ้นเมื่อ 400 ปีเศษมาแล้ว มีสะพานญี่ปุ่น สร้างโดยชาวญี่ปุ่นเชื่อมเขตกามโฝ กับมิงห์ เฮือง เป็นรูปทรงโค้ง มีหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นลอนคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองเว้ ผ่านจังหวัดกวางนัมเป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งแปซิฟิกที่สวยที่สุด มีอ่าวขนาบทั้ง 2 ด้าน ท้องทะเลสีคราม
เที่ยง รับประทานอาหารในภัตตาคาร / อาหารทะเล
บ่าย เดินทางต่อไปจนถึงเว้ นำท่านสู่ตลาดดองบา ตลาดขายสินค้าขนาดใหญ่ของเว้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง และของท้องถิ่นก็จะมีพวกอาหารแห้ง ปลาหมึก กุ้งแห้ง ฯลฯ สินค้าต่อรองราคาได้ แม่ค้าที่นี่พูดภาษาไทยกันได้หมด
ค่ำ รับประทานอาหารในภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านล่องแม่น้ำหอม ชมแสงสียามค่ำคืนริมฝั่งน้ำ เคล้าคลอด้วยดนตรีพื้นเมือง และนักร้องสาวในชุดประจำชาติ อ๋าวใหญ่ และร่วมลอยกระทงบนลำน้ำหอม
เข้าสู่ที่พัก Century Riverside Hotel หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ห้า เว้-สะหวันนะเขต-มุกดาหาร
เช้า รับประทานอาหารในโรงแรม
เดินทางกลับสู่ชายแดนเวียดนาม-ลาวที่ด่านลาวบาว ผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 9
เที่ยง รับประทานอาหารในภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมพระธาตุอิงฮัง พระธาตุเก่าแก่ที่คนลาวนับถือกันมาก ด้านบนพระธาตุเป็นทองคำแท้ๆ หนักเกือบครึ่งกิโลกรัม และยังเป็นที่เล่าลือกันว่าพระธาตุอิงฮังเป็นพระธาตุคู่แฝดกับพระธาตุพนมของไทยเราด้วย ตามประวัติ พระธาตุสร้างในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ประมาณ พ.ศ.400 ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม สูง 25 เมตร คำว่าอิงฮัง มาจากคำว่า พิงรัง หรือพิงต้นรังนั่นเอง การมานมัสการนั้นคนลาวนุ่งซิ่น นักท่องเที่ยวก็ต้องนุ่งซิ่นด้วยเหมือนกัน ทางวัดมีจัดเตรียมไว้ให้ และก่อนข้ามแดนกลับสู่เมืองไทยให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองไทยผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 และนำท่านช้อปปิ้งที่ตลาดอินโดจีน เป็นแหล่งรวมสินค้านำเข้าจากนานาประเทศ เช่น รัสเซีย จีน เวียดนาม ลาว มีทั้งแบบปลีกและส่ง ส่วนมากจะเป็นเสื้อผ้า เซรามิค เครื่องใช้ไฟฟ้า และยังมีสินค้าพื้นเมืองของชาวมุกดาหาร เช่น ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่
ค่ำ รับประทานอาหารในภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ พักผ่อนบนรถตามอัธยาศัย
วันที่หก กรุงเทพฯ
0500 ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ