สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
07-14, 14-21 , 21-28 ต.ค. 2557 55,900.-
02-09 , 09-16 ธ.ค.2557 59,900.-
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ
17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ พบเจ้าหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับท่าน***คณะเดินทางวันที่ 2 ธ.ค.2557 เป็นต้นไป คณะพร้อมกันเวลา 17.00 น. และออกเดินทางเวลา 19.55 น. และเดินทางถึงสนามบินโดฮา เวลา 23.10 น.***
20.55 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 833
23.40 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงโดฮา เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่สองของการเดินทาง กรุงเทพฯ – เวียนนา – ฮัลสตัท - ซาลส์บวร์ก
01.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ QR 181***คณะเดินทางวันที่ 2 ธ.ค.2557 เป็นต้นไป และออกเดินทางเวลา 02.25 น. และเดินทางถึงสนามบินกรุงเวียนนา เวลา 06.35 น.***
06.40 น. ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง หรือ ปรับเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 26 ต.ค. 2557) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์ แห่งความฝัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก นำเที่ยวชมความงามของเมืองซาลส์บวร์กที่มีความหมายว่า“ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำเข้าชมสวนดอกไม้ “มิราเบล” ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก (** คืนนี้กรุณาจัดเตรียมเสื้อผ้า 1 ชุด ใส่กระเป๋าเล็ก สำหรับนำไปค้างคืน 1 คืน เนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆรถบัสไม่สามารถเข้าในเขตเมืองเก่าได้ ไม่สะดวกในการขนย้ายกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และห้องพักค่อนข้างเล็ก และจะเก็บกระเป๋าใหญ่ไว้บนรถ **)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Holiday Inn Salzburg City หรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง ซาลส์บวร์ก – เมืองพัสเซา - เชสกี้ ครุมลอฟ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองพัสเซา (Passau) เมืองพรมแดนระหว่างเยอรมนีและออสเตรีย ตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรีย และเป็นจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำ 3 สายอันได้แก่ ดานูบ (Danube), แม่น้ำอินน์ (Inn) และแม่น้ำอิซ (Ilz) เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยฮิตเลอร์และครอบครัวเคยอาศัยอยู่ในพัสเซาถึง 4 ปี เที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมืองคือ วิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen's Cathedral) ซึ่งภายในวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (The largest cathedral organ in the world) เดินเที่ยวชมเขตเมืองเก่า ชมความคลาสสิคของตึกรามบ้านช่องของเขตเมืองเก่า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลก เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่อง จากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Old Inn หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง เชสกี้ ครุมลอฟ – ปราก - ปราสาทแห่งปราก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 ชมมหาวิหาร เซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปร๊าก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น แล้วชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย แล้วเดินชมย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก วางจำหน่ายอยู่มากมาย จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่เรียงรายอยู่บนตลอดแนวสะพาน จากนั้นนำท่านเดินสู่ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม International Prague หรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง ปราก – บราติสลาวา – บูดาเปสต์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงบราติสลาวา (Bratislava) ซึ่งเป็นเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ที่บริเวณพรมแดนของสโลวัก ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนของสาธารณรัฐเช็ก ผ่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก ชมโบสถ์เซนต์มาร์ติน ปราสาทบราติสลาวา ย่านมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ต่างๆ โรงละคร และสถาบันทางวัฒนธรรม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางเข้าสู่กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความทันสมัย สวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองมานานนับพันปี จนถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพ สองฝั่งของแม่น้ำดานูบ หรือที่ชาวฮังกาเรียนเรียกขานว่า “ดูนา” แม่น้ำสายสำคัญ ที่ไหลผ่านกลางเมือง แบ่งบูดาเปสต์เป็นสองฝั่ง คือ เมืองบูดา ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และ เมืองเปสต์ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบอันสวยงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Mercure Budapest หรือเทียบเท่า
วันที่หกของการเดินทาง บูดาเปสต์ – ป้อมชาวประมง – เวียนนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านข้ามสู่ฝั่งบูดา เพื่อชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ ชมโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ โดยชื่อของโบสถ์ที่มาจากชื่อของกษัตริย์แมทเธียส สร้างในสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีอันสวยงามและถือเป็นจุดเด่นที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟนที่ 1 ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศควรรษที่ 11 มีลักษณะเป็นพระบรมรูปทรงม้า อยู่บริเวณหน้าป้อมชาวประมง (Fishermen’s Bastion) ซึ่งเป็นจุดชมวิวเหนือเมืองบูดา ที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างงดงาม ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน นำท่านชมจัตุรัสวีรบุรุษ (Heroes’ Square) บนฝั่งเปสต์ ที่ตั้งของ Millenary Monument อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลอง 1,000 ปี แห่งชัยชนะของชาวแมกยาร์ นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) เส้นทางท่องเที่ยวสายหลักของกรุงเวียนนา ซึ่งแวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่งดงาม เช่น โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1863-1869 พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์กมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13-20 ชมตึกรัฐสภา ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1873-1883 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญช๊อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯ9ฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท หรือแวะชิมของหวานที่ร้าน THE DEMEL ร้านเบเกอร์รี่ และ ช๊อคโกแลตที่เก่าแก่เริ่มกิจการตั้งแต่ปี 1786 ในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม Ananas Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ดของการเดินทาง เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ - กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮับสบวร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส***คณะเดินทางวันที่ 21 ต.ค.2557 เป็นต้นไป หลังเข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ จะออกเดินทางสู่สนามบิน โดยเที่ยวบิน QR184 ออกเดินทางเวลา 14.45 น. และเดินทางถึงสนามบินโดฮา เวลา 22.10 น. และทางบริษัทจะคืนเงินค่าอาหารให้ท่านล่ะ 10 ยูโร***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำเดินทางสู่สนามบินชเวทชาท กรุงเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
16.15 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 184
22.35 น. ถึงสนามบินกรุงโดฮา เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
วันที่แปดของการเดินทาง กรุงเทพฯ
01.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์
เที่ยวบินที่ QR 828 ***คณะเดินทางวันที่ 2 ธ.ค.2557 เป็นต้นไป และออกเดินทางเวลา 01.25 น. และเดินทางถึงสนามบินโดฮา เวลา 11.35 น.***
12.05 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ