สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
เดินทาง
วันที่ 11 – 17 ตุลาคม 2557 39,900.-
วันที่ 8 – 14, 15 – 21, 22 – 28 พฤศจิกายน 2557 39,900.-
วันที่ 5 – 11 ธันวาคม 2557 40,900.-
วันที่ 29 ธันวาคม 2557 – 4 มกราคม 2558 42,900.-
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – เดลลี – ช้อปปิ้ง ตลาดจันปาท
06.00 น. พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิที่เคาน์เตอร์ w สายการแอร์อินเดีย ประตู 10 โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง
08.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองเดลลี โดย สายการบินแอร์อินเดีย AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI333 (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4.30 ชั่วโมง)
12.05 น. ถึงสนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาในประเทศอินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชั่วโมง ขอให้ทุกท่านตั้งเวลาใหม่เพื่อไม่สับสน)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ เข้าสู่กรุงนิวเดลลี เมืองที่มีประวัติ-ศาสตร์ อันยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณ 7 อาณาจักร ต่อมาในปี 1857 ประเทศอังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอินเดียและได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่โกลกัตตา และได้ย้ายกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งในปี 1911 หลังจากประเทศอินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี 1947 ก็ได้มีการสร้างสถานที่ทำการราชการโดยสร้างเมืองใหม่ชื่อว่า “นิวเดลลี” และประตูเมืองแห่งชัยชนะ หรือ INDIA GATE ประตูนี้มีลักษณะเหมือนประตูชัยปารีสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และมีการสลักชื่อทหารที่สละชีพเพื่อชาติในสงครามโลกครั้งที่ 1ด้วย จากนั้นผ่านชมรัฐสภาราชปาติ บาวาล ซึ่งเป็นวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ มีตึกรัฐสภาอันยิ่งใหญ่และเป็นที่ทำการของรัฐบาล ผ่านชมย่านธุรกิจการค้าและย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดียบนถนนสายสำคัญที่สุดของอินเดีย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอักรา โดยผ่านเข้าสู่แคว้นอุตรประเทศ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งเกษตรกรรมนานาชนิดที่ผลิตเพื่อเลี้ยงดูชาวอินเดียทั้งประเทศไปตามถนนไฮเวย์สายใหม่
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำคณะเข้าสู่ที่พักโรงแรม CROWNE PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า (ระดับ 4ดาว)
วันที่ 2 เดลลี – ศรีนาคา – แคชเมียร์ (บินภายใน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา เมืองหลวงของแค้วนจามมู และแคชเมียร์
12.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา โดยสายการบินแอร์ อินเดีย (AIR INDIA) โดยเที่ยวบินที่ AI821
13.30 น. เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา เช็คสัมภาระแล้วนำท่านเดินทางสู่เมืองแคชเมียร์โดยนั่งรถท้องถิ่น นั่งคันละ 5 ท่าน รถท้องถิ่นจะไม่มีแอร์เนื่องจากอุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี
บ่าย รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พัก Deluxe House Boat ณ ทะเลสาบ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประพาสน์ของพระมหากษัตริย์ผู้สร้างอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทาง ชมสวนชาลิมาร์ ที่เป็นสวนแบบราชวงศ์โมกุลซึ่งเป็นสวนแห่ง
ความรักของ มหาราชา ชาฮังคี จากนั้นนำท่าน ชมสวนนิชา บากห์ โดยมีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมทั้งพันธุ์ไม้นานาชนิดและดอกไม้ตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกทิวลิปบานสะพรั่ง (ประมาณเดือน ก.พ. – มี.ค.) สวนแห่งนี้สร้างโดย ยอซาฟ คาน มีความงดงามที่สุดที่จะหาคำบรรยายได้ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับดอกไม้ที่แสนสวย และผ่านชมเมืองเก่าแคชเมียร์ที่ตั้งเมืองหลวงฤดูร้อนของกษัตริย์ในราชวงศ์โมกุล ที่สร้างเป็นลักษณะเฉพาะหรือเรียกได้ว่าเป็นศิลปะแคชเมียร์ (หากมีเวลาพอนำท่านชมโรงงานผ้าไหม และช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง) ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ที่พักบนบ้านเรือ DELUXE HOUSE BOAT
จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 ศรีนาคา – กุลมาร์ค – เคเบิลคาร์ – ศรีนาคา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พักบนบ้านเรือ
นำท่านเดินทางโดยนั่งรถท้องถิ่น (คันละ 5 ท่าน) ไม่มีแอร์ อุณหภูมิที่ศรีนาคาเฉลี่ยประมาณ 15 องศา อากาศจะเย็นสบายตลอดปี ขึ้นสู่เทือกเขากุลมาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งในโลก ในขณะขับรถสู่เทือกเขากุลมาร์คสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาข้าวสลับกับพันธุ์ไม้ป่าและฝูงแกะตามเทือกเขา โดยเทือกเขาหิมาลัยนี้จะมีหิมะปกคลุมสลับกันไป อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคา 57 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เทือกเขากุลมาร์คเป็นพื้นที่ราบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อถึงกุลมาร์คแล้วพาท่านเที่ยวชมเทือกเขาซึ่งเป็นภูเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ มีชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) เดิม กุลมาร์ค มีชื่อเรียกว่า เการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่านยูซุป ชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลและสถานที่เล่นกีฬาสกีน้ำแข็งในฤดูหนาว) จนไม่คิดว่านี้เป็นประเทศอินเดีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย จากนั้นนำท่านขึ้น เคเบิลคาร์ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ในเฟส 1 (หากท่านต้องการขึ้นเคเบิลคาร์ไปยังเฟส 2 เพื่อชมทิวทัศน์ที่สูงขึ้นไปอีก ท่านสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีเฟส 1 ท่านละ 500 รูปี ไม่รวมในค่าทัวร์) ในระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะได้พบเห็นหมู่บ้านยิปซีในเบื้องล่างที่อพยพไปอยู่ที่เมืองจามมูในช่วงฤดูหนาวและจะกลับมาอยู่อาศัยที่กุลมาร์คในช่วงฤดูร้อน เมื่อถึงบนยอดกุลมาร์ค เฟส 1 ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามดุจแดนสวรรค์จนถึงยอดเขากุลมาร์ค ให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปเหมือนอยู่ในเทือกเขาทิตลิส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (ท่านสามารถเล่นสกีได้ระหว่างช่วงฤดูหนาว – ใบไม้ผลิ (ธ.ค. – เม.ย.) ซึ่งค่าเล่นสกีนี้จะไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ สามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นเพื่อแจ้งเล่นสกีได้) ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ศรีนาคา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ที่พักบนบ้านเรือ DELUXE HOUSE BOAT
จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4 ศรีนาคา – โซนามาร์ค – ชมเทือกเขาหิมาลัย – ศรีนาคา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของบ้านเรือ
นำท่านเดินทางจากศรีนาคาสู่ โซนามาร์ค (ระยะทาง 80 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) คำว่า “โซนา” แปลว่าทอง “มาร์ค” แปลว่าเส้นทาง ในอดีตเส้นทางนี้เป็นเส้นทางค้าขายในตำนานหรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม เนื่องจากภูมิประเทศที่สวยงามอีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางการเดินทางจะได้เห็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะรูปร่างแปลกตา สลับกับป่าต้นวอลนัตขนาดใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางเส้นทางนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,690 เมตร เรียกว่าสวยงามมากตลอดเส้นทางจากศรีนาคา ผู้เดินทางจะได้เดินทางไปและถ่ายรูปไปตลอดทาง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน
บ่าย
จากนั้นพาท่านชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี (ขี่ม้า 500 รูปี บวกค่าทิป (คนจูงม้า) 100 รูปี ต่อคนไม่รวมในค่าทัวร์ – สอบถามราคากับหัวหน้าทัวร์หรือไกด์ท้องถิ่นอีกครั้ง) ชมภูเขา สายน้ำ ลำธารและสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองที่นั่นจนเพลิดเพลินแทบไม่อยากจากมาเหมือนผีเสื้อที่บินอยู่ในแดนสวรรค์ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ศรีนาคา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ที่พักบนบ้านเรือ DELUXE HOUSE BOAT
จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที 5 ศรีนาคา – ล่องเรือซิคาร่า – เดลลี (บินภายใน) – อักรา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ที่พักบนบ้านเรือ
จากนั้นนำทุกท่านล่องเรือซิคาร่าในทะเลสาบ ซึ่งเป็นเรือพายแบบฉบับ
แคชเมียร์โดยเฉพาะ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำที่อยู่ท่ามกลาง ฉากหลังภูเขาหิมะล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ ขับกล่อมไปด้วยเสียงนกนานาชนิดแต่งแต้มด้วยดอกไม้น้ำนานาพันธุ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่สนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางกลับกรุงนิวเดลลี
14.15 น. ออกเดินทางจากศรีนาคา เข้าสู่กรุงนิวเดลลี โดยสายการบินแอร์ อินเดีย (AIR INDIA) โดยเที่ยวบินที่ AI659
15.45 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานภายในประเทศกรุงนิวเดลลี
บ่าย นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ ออกจากเมืองเดลลี โดยผ่านเข้าสู่แคว้นอุตรประเทศ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งเกษตรกรรมนานาชนิดที่ผลิตเพื่อเลี้ยงดูชาวอินเดียทั้งประเทศ ไปตามถนนไฮเวย์สายใหม่ผ่านเข้าเมืองใหญ่มธุราเข้าสู่เมืองอักรา
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ค่ำ นำคณะเข้าสู่ที่พักโรงแรม JAYPEE PALACE HOTEL AGRA หรือเทียบเท่า (ระดับ 4ดาว)
วันที่ 6 อักรา – ทัชมาฮาล – อักราฟอร์ด – เดลลี
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมทัชมาฮาลแหล่งมรดกโลก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญ ของโลกเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิค ที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ที่ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย โดยอาคารตรงกลางจะเป็นรูปโดม ซึ่งมีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี โดยสิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี มีการใช้ทองคำประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของอาคาร หนัก 500 กิโลกรัม และใช้คนงานกว่า 20,000 คน ต่อมานำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนา โดยฝั่งตรงกันข้ามจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว โดยเล่ากันว่าพระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำโดยตัวรูปอาคารจะเป็นแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน
จากนั้นนำท่านเข้าชมอักราฟอร์ด มรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ต่อมานำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์,พระโอรส, พระธิดาและองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง ที่สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ ในพระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่า ชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปี ในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็นำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังก์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่ได้นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้กับนางในฮาเร็ม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเดลลี
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
วันที่ 7 เดลลี – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบินกรุงเดลลี
14.00 น. เหิรฟ้ากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์อินเดีย AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI332
19.15 น. คณะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ