สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
เดินทาง 22 - 27 OCT 2014
วันแรก กรุงเทพฯ –ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
20.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ประตู 2 เคาน์เตอร์ D
เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสารก่อนขึ้นเครื่อง
23.45 น. เดินทางสู่ สนามบิน ชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 670
วันที่สอง สนามบินชิโตเซะ – ชิโตเซะ โดซาน อิจิบะ – ฟุราโน่ – โรงงานชีส – ฟาร์มโทมิตะ – บิเอะ –
ถนนสายพาโนราม่า – สระสีน้ำเงิน – โชอุนเคียว
08.00 น. เดินทางถึงสนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางสู่ “ชิโตเซะ โดซาน อิจิบะ” แหล่งรวมสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเล ผักต่างๆ ของแห้ง รวมไปถึงของฝากท้องถิ่นของฮอกไกโดอีกด้วย ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้ากันตามอัธยาศัย
*** เฉพาะเดือน ต.ค. นำท่านเดินทางสู่ ม.ฮอกไกโด ให้ท่านได้ชมความงามของต้นแปะก๊วย ที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทอง ให้ท่านได้เก็บภาพกันตามอัธยาศัย ***
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองฟุราโน่ ไปยัง “โรงงานผลิตชีส” โรงงานขนาดกะทัดรัด สไตล์ญี่ปุ่นที่นำเสนอวิธีการผลิตชีส และการนำชีสมาประกอบอาหารที่หลายท่านอาจไม่เชื่อว่าจะมีชีสเป็นส่วนประกอบเช่น ชีสสีดำที่ทำจากดีปลาหมึก ชีสรสไวน์แดง ชีสรสไวน์ขาว เป็นต้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “โทมิตะฟาร์ม” สัมผัสความงดงาม และอากาศอันแสนบริสุทธิ์ จากดอกไม้หลากหลายนานาพันธุ์ หลายสีสัน ให้ท่านได้เก็บภาพกันตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองบิเอ ชม “ถนนสายพาโนราม่า” ท่านจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ และธรรมชาติที่สวยงาม ด้วยจุดชมวิวมุมกว้างมากมาย สามารถมองเห็นภูเขาไทเซะทซึ และโทะคะชิ จุดชมวิวทุ่งดอกไม้ เป็นต้น
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “สระน้ำสีน้ำเงิน หรือ อาโออิเคะ” สระน้ำสีน้ำเงิน ที่สวยงามจับตา เหมือนต้องมนต์สะกด สระนี้เกิดหลังจากการสร้างเขื่อน ในต้นน้ำของแม่น้ำบิเอะ ในเมืองบิเอะ เขื่อนได้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการระเบิดของภูเขาโทคาชิ ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นใน เดือนธันวาคม ปี1988 การสร้างเขื่อนได้มีผลทำให้กระแสน้ำของแม่น้ำบิเอะไหลย้อน และสะสมจนกำเนินเกิดบ่อน้ำสีน้ำเงินในป่าขึ้น แร่ธาตุในน้ำซึ่งเป็นแร่อลูมิเนียมไฮด๊อกไซด์ ทำให้เกิดคลื่นแสงสีฟ้าเช่นเดียวกับชั้นบรรยากาศโลก สะท้อนเป็นกระจก ส่องประกายระยับ ตัดกับทิวไม้ ที่ลอบล้อมในธรรมชาติ ได้งดงามจับใจ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “โซอุนเกียว” หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาไดเซทสึในเมืองคะมิคะวะ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำแร่ออนเซ็น (Onsen) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโด ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงนิยมแวะมาแช่น้ำแร่ร้อนออนเซ็นกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ ปีละกว่า 3 ล้านคน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก (+ขาปูยักษ์)
ที่พัก SOUNKYO KANKO HOTEL หรือเทียบเท่า
ให้ท่านได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่หรือเรียกอีกอย่างว่า ออนเซ็น (ONSEN) เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่จะทำให้เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความอีกด้วย
วันที่สาม ภูเขาคุโรดาเกะ – น้ำตกริวเซย์ – น้ำตกกิงกะ – สวนสัตว์อาราชิยาม่า – หมู่บ้านราเมง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ด้วยการนั่งกระเช้าขึ้นสู่ “เขาคุโรดาเกะ” ที่สูงถึง 1,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ให้ท่านได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ และมองเห็นวิวที่สวยงามรอบๆภูเขาแห่งนี้ให้ท่านได้เก็บภาพกันตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “น้ำตกริวเซย์” ขนาดความสูง 90 เมตร เป็น น้ำตกที่มีความงามตามธรรมชาติสายน้ำที่ไหลออกมา เมื่อต้องแสงอาทิตย์ดู งามราวกับดวงดาวที่ตกลงมาจากฝากฟ้า นำท่านชม “น้ำตกกิงกะ” น้ำตกที่มีความงาม แบบธรรมชาติ และมีความสูงถึง 120 เมตร ในหน้าหนาวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง
และมีความสวยงามมากซึ่งน้ำตก ทั้งสองแห่งนี้ยังได้รับสมญานามว่าเป็นน้ำตกคู่สามีภรรยาอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า” สวนสัตว์ที่อยู่ตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมที่สุดของญี่ปุ่นเพราะเป็น สวนสัตว์ที่แตกต่างจากสวนสัตว์อื่นๆ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ เข้ามาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้สูงถึง 3 ล้านคนต่อปี เป็นสถานที่ ที่รวบรวมสัตว์นานาพันธุ์กว่า 150 ชนิด โดยเฉพาะสัตว์เมืองหนาว เช่น แมวน้ำลายจุด, หมีขาวขั้วโลก พิเศษ ชมนกเพนกวิน 4 สายพันธุ์อย่างใกล้ชิด(เฉพาะในช่วงฤดูหนาว) จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้คือความไม่ธรรมดาของสัตว์ต่างๆ ท่านจะได้เห็นสัตว์แปลกๆ หลากหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในโซนขั้วโลกที่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรงในแบบที่เคยเห็นในสวนสัตว์ทั่วๆ ไป แต่ที่นี่คุณจะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยมในการออกแบบที่อยู่ของสัตว์ ด้วยแนวความคิดที่ว่า สัตว์ต่างๆควรจะได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและ เป็นไปตาม ธรรมชาติของสัตว์นั้นๆเพื่อให้พวกเขามีความสุขอีกทั้งยังแฝงกิจกรรมที่สามารถใกล้ชิด สัตว์ต่างๆได้มากยิ่งขึ้น เช่น การทำอุโมงค์ใต้น้ำเป็นแทงค์ รูปกระบอก ยื่นเข้าไปในบ่อของแมวน้ำซึ่งเรา สามารถเห็นการเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วของแมวน้ำได้อย่างใกล้ชิดถึง360 องศา, ตื่นตากับการได้ใกล้ชิดหมีขาวขั้วโลกเหนือ จากอุโมงค์ที่สร้างลอดใต้ดิน เป็นต้น
จากนั้น นำท่านดินทางสู่ “หมู่บ้านราเมง” ที่แห่งนี้จะประกอบด้วยร้านราเมนมีชื่อเสียง 8ร้าน ที่แข่งขันกันทำ
ราเมน ของตนเองให้อร่อยที่สุด เพื่อสืบทอดมรดกทางปัญญาที่ถ่ายทอดกันมาและยกระดับคุณภาพและ
มาตรฐานของราเมนอะซะฮิคะวะเพื่อให้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก อะซะฮิคะวะราเมนนั้น มีประวัติมายาวนานนับย้อนหลังไปตั้งแต่ต้นสมัยโชวะ ซึ่งในขณะนั้นฮอกไกโดราเมนได้กำเนิดขึ้นในเมืองซัปโปโรโดยการผสมผสานบะหมี่ หลายชนิดของจีน ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ราเมนที่เป็นต้นแบบเฉพาะของอะซะฮิคะวะก็ได้กำเนิดขึ้น จากความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ เช่น การทำให้น้ำซุปร้อนอยู่ได้นานโดยเคลือบผิวหน้าด้วยน้ำมันหมู น้ำซุปรสซีอิ้ว ที่เคี่ยวด้วยกระดูกหมู และน้ำสต๊อคซีฟู๊ดเช่น นิโบะชิ (ปลาซาร์ดีนแห้ง) และเส้นบะหมี่ที่มีส่วนผสมของน้ำน้อยกว่า และด้วยเหตุนี้หมู่บ้านราเมนอะซะฮิคะวะก็ได้เปิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปี 1996 เนื่องด้วยผู้คน เริ่มกล่าวขวัญถึงอะซะฮิคะวะราเมน และเพื่อเผยแพร่อาหารที่เป็นความภาคภูมิใจของอะซะฮิคะวะ นี้ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในบริเวณหมู่บ้านอะซะฮิคะวะ
ราเมนยังมีศูนย์การค้าสำหรับช้อปปิ้งหลังจากอิ่มอร่อยกับราเมนแล้ว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศาลเจ้า Ramen Village Shrine หรือ Menmusubi ในภาษาญี่ปุ่น เป็นที่ ๆ คู่สมรสสามารถมาขอพรเพื่อให้ ชีวิตคู่ร้อนแรงเหมือนน้ำซุปและยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์ องค์แรกคือ Menkoiten ที่จะให้พร ให้คู่รักครองรักกันนาน ๆ และ Menmadaio จะช่วยให้คู่รักซื่อสัตย์ต่อกัน และรักกันมากยิ่งขึ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก JOZANKEI VIEW HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ โอตารุ – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว– พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – นาฬิกา ไอน้ำ – ช้อปปิ้ง
ซาไคมาจิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ “เมืองโอตารุ” เมืองตากอากาศชื่อดังแห่งเกาะฮอกไกโดทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการ ประมงที่มีชื่อเสียงอีกด้วย เมืองนี้มีเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมญี่ปุ่น นำท่านผ่านชม “คลองโอตารุ” สัญลักษณ์แห่งเมืองโอตารุในสมัยก่อนคลองโอตารุถูกใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่าง เกาะฮอกไกโดกับเกาะอื่นๆของญี่ปุ่นรวมถึงต่างประเทศด้วยส่งผลให้บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างใน เมืองนี้เป็นแบบยุโรปผสมญี่ปุ่นนั่นเอง
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “โรงงานเครื่องแก้ว” ชมผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วซึ่ง มีชื่อเสียงที่สุดของ โอตารุ ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องแก้วสวยงามมากมาย ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม “พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี” พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่นี่มีประวัติเริ่มมาตั้งแต่สมัยสร้างเมืองใหม่ๆ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรี ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ในตัวอาคารทั้ง 3 ชั้น เต็มไปด้วยกล่องดนตรี ทั้งที่จัดแสดงไว้และของที่ระลึกจาก โอตารุที่มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน ในวันหยุดจะมีโชว์กล่องดนตรี และหีบเพลงเป็นรอบๆ ให้ฟังเพลินๆ ด้วย นอกจากนี้ที่ชั้น 3 ยังสามารถประดิษฐ์กล่องดนตรีได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่เลือกเพลงโปรด หากล่องใส่และเลือกตุ๊กตาเซรามิกที่จัดไว้ เสร็จแล้วก็นั่งประกอบเป็นกล่องดนตรีของตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย(ไม่รวมค่าใช้จ่าย) ชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังมีการประยุกต์เอาเพลงจากกล่องดนตรีมาอัดใส่ เป็นซีดี มีทั้งเพลงญี่ปุ่น และเพลงสากล นอกจากนี้ท่านยัง สามารถส่งเป็นซีดีโปสการ์ดได้โดยตรงจากพิพิธภัณฑ์ ด้วยเช่นกัน
จากนั้น ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำ ประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุก ๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนที่ลอนดอน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก MAHOROBA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า โนโบริเบ็ทสึ – หุบเขานรก – ช้อปปิ้งโกคุราคุ – หมู่บ้านไอนุ – โรงงานช็อกโกแลต – เจอาร์
ทาวเวอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโนโบริเบ็ทสึ ไปยัง “จิโกกุดานิ” หรือ “หุบเขานรก” นำท่านเดินชม “บ่อโคลนเดือด” ธรรมชาติ ที่ กระจายอยู่ เต็มบริเวณ ซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพที่ ผุดขึ้นมา ไม่ขาดสาย ลัดเลาะไปตามเนินเขา เพื่อสัมผัสกับบ่อโคลนอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังมี ศาลเจ้า ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ชาวบ้านก็ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากเช่นกัน เชิญท่านเลือกหามุมบันทึกภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้ง “โกคุราคุ” ที่เต็มไปด้วยร้านค้าขายของพื้นเมือง ของที่ระลึกผ้าทอมือ สินค้าแกะสลัก เครื่องแก้วฯลฯ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “หมู่บ้านไอนุ” ชนพื้นเมืองของ ฮอกไกโด ให้ท่านได้เดินถ่ายรูปกับบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเผ่าไอนุ หรือช้อปปิ้งซื้อของฝากแบบพื้นบ้านกันตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “โรงงานช็อกโกแลต อิชิยะ” เป็นโรงงานที่ผลิตช็อคโกแลต ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรป ที่แวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ จึงทำให้บรรยากาศของโรงงานช็อกโกแลตที่นี่จึงดูเหมือนกับเทพนิยาย ช็อกโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่าช็อกโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทาน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “เจอาร์ ทาวเวอร์” เป็นตึกที่สูงที่สุดในซับโปโร ตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์ซับโปโร เป็นห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงแรม ศูนย์อาหารโดยมีจุดชมวิวอยู่ที่ชั้น38เรียกว่า T38 ที่ระดับความสูง160เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองซับโปโรได้กว้างไกลทั้งกลางวันกลางคืน (ไม่รวมค่าขึ้นชมวิว)
จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง “ซึซึกิโนะ” แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ เสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่นมากมาย และยังเป็นรวมร้านอาหารมากมายนับพันเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวนักชิม และยังเป็นที่ท่องเที่ยวยามราตรี อีกด้วย
จากนั้น ช้อปปิ้งกันต่อกับย่าน “ทานูกิโคจิ” ช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝน และหิมะ
มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ แบบอิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าอาหาร)
ที่พัก ANA HOTEL SAPPORO หรือเทียบเท่า
วันที่หก สนามบินชิโตเซะ – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (กรุณาตรวจเช็คสิ่งของ และสัมภาระให้เรียบร้อย)
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
10.45 น. เหินฟ้าสู่ เมืองไทย โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 671
15.45 น. เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม