สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
กำหนดการเดินทาง : 23-27 ต.ค. // 4-8 ธ.ค. 57
23-27 ต.ค. // 4-8 ธ.ค. 57 46,999.-
06.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิฯ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q (ประตู 8) สายการบิน ETIHAD AIRWAYS (EY) สายการบินชั้นนำ หรูหราระดับโลก โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก เรื่องเอกสารและสัมภาระ ตลอดการเดินทาง
08.35 น. คณะออกเดินทางสู่ เมืองอาบูดาบี โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY403
12.00 น. เดินทางถึงสนามบินอาบูดาบี (เวลาท้องถิ่นดูไบช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอาบูดาบี (ABUDHABI) เป็นเมืองหลวงของ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) นครที่ได้รับสมญาว่าเป็น Garden Of Gulf เพราะความเขียวขจีของตัวเมือง
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ นครดูไบ ซึ่งเป็นที่สองในบรรดารัฐทั้งเจ็ดของสหรัฐอาหรับเอมิเรดส์ รองจากกรุงอาบูดาบี้ ดูไบนับเป็นหัวใจของธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวแห่งดินแดนตะวันออกกลาง และดูไบยังเป็นมากกว่าเมืองสมัยใหม่ที่มากมายด้วยตึกสูงระฟ้า แต่ด้วยภูมิประเทศที่แตกต่าง ความเขียวขจีของ ผืนดิน สนามหญ้า ต้นปาล์ม และต้นอินทผลัมนานาพันธุ์ที่เรียงรายอยู่ทั่วไป ฝั่งน้ำอันสดใสของทะเลอาหรับโดยเฉพาะทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่สร้างความหลากหลายให้แก่เมืองนี้อย่างน่าทึ่ง สัมผัสกับเสน่ห์ที่ผสานกันจากมรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งในแบบอาหรับดั้งเดิม และความสะดวกสบายของยุคใหม่ในแบบตะวันตกอันทันสมัย … นำท่านชม ตึกเบิร์จ ดูไบ BURJ KHALIFA ซึ่งสูงถึง 828 เมตร (ณ ปัจจุบันนี้) มีทั้งหมด 160 ชั้น เป็นตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก BURJ KHALIFA ออกแบบโดยนายเอเดรียน สมิธ สถาปนิกจากชิคาโก จากสำนักงานสถาปนิกคิดมอร์,โอวิงส์ แอนด์ เมอร์ริลล์ ผู้ออกแบบเดียวกันกับ SEARS TOWER ตึกที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน และ FREEDOM TOWER ในนิวยอร์ค ที่กำลังก่อสร้างแทนที่ตึก WORLDTRADE CENTER ที่ถล่มไปในปี 2001 การตบแต่งภายในดูแลโดย Giorgio Armani โดย 37 ชั้นล่างจะเป็น โรงแรม Armani ,ชั้น 45-108 เป็น Apartment โดยมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งอยู่ที่ชั้น 78 ชั้นที่เหลือเป็นสำนักงาน ชั้น 123-124 เป็นจุดชมวิว และชั้นบนสุดเป็นที่ติดตั้งเสาสัญญาณต่างๆ และตึกนี้จะมีการติดตั้ง Lift ที่มีความเร็วที่สุดในโลกคือ 18 เมตร ต่อวินาที หรือ 65 กม. ต่อชั่วโมง .... BURJ KHALIFA ได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2553 โดยผู้ปกครองดูไบ ชีค Mohammed Bin Rashid Al Maktoum (ไม่รวมค่าขึ้นชมตึกด้านบน) จากนั้นนำท่านสู่ ห้างดูไบมอลล์ (Dubai Mall) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ไม่รวมค่าเข้าชม) ให้ท่านได้ถ่ายรูปหน้าตู้ปลาที่มีขนาดมากกว่าสิบคนยืนเรียงกัน อิสระในการช้อปปิ้งของฝาก สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ และ สตรี จากยุโรป กระเป๋าถือสตรี เครื่องไฟฟ้า เครื่องกีฬา เป็นต้นและในเวลา 18.00-24.00 น. ของทุกวัน และท่านจะได้ชมการแสดง น้ำพุแห่ง ดูไบ น้ำพุเต้นระบำอันสวยงามวิจิตร ซึ่งถือเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ตั้งอยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา ทะเลสาบที่เป็นศูนย์กลางของเมืองดูไบ ถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียงมากมาย สิ่งพิเศษของน้ำพุแห่งดูไบ นี้ จะใช้ไฟทั้งสิ้น 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงประกอบดนตรีครั้งละ ประมาณ 5 นาที โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 7.2 พันล้านบาท
ค่ำ นำท่านล่องเรือรับประทานอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ ณ Dhow Cruise ชมทัศนียภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอาหรับยามราตรี ผ่านชมสนามกอล์ฟ ดูไบ ครีก กอล์ฟ คลับ สนามกอล์ฟ 1 ใน 3 สนามที่มีอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย
นำท่านเดินทางสู่ที่พัก ณ GRAND EXCELSIOR HOTEL DUBAI ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นให้ท่านได้ แวะถ่ายรูปในบริเวณชายหาด Jumeirah Beach ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งเป็นชายหาดตากอากาศที่สวยงามยอดนิยมของดูไบ จากจุดนี้ท่านสามารถถ่ายรูปโดยมีฉากหลังอันสวยงามเป็นโรงแรม Burj Al Arab โรงแรมสุดหรูระดับ 7ดาว ที่สวยและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีชื่อเสียงของตะวันออกกลาง ที่ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสเข้าไปสัมผัส ตั้งอยู่ริมอ่าวอาหรับ เป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีชาวอาหรับ นำท่านเดินทางสู่ เดอะปาล์มไอร์แลนด์ (The Palm Island) เป็นโครงการที่อลังการ สุดยอดโปรเจคส์ของ ยูไนเต็ดอาหรับเอมิเรตส์ โดยการถมทะเล ให้เป็นเกาะเทียม สร้างเป็นรูปต้นปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะมีที่พักโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้น ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนัก งานต่างๆ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก ให้ท่านได้ชมกับความยิ่งใหญ่ของเกาะนี้ ... สุดปลายเกาะแห่งนี้ ท่านจะได้พบกับอีกหนึ่งสุดยอดโปรเจค สุดอลังการณ์ The Atlantis Hotel สร่างอยู่กลางทะเล ให้ท่านอิสระถ่ายรูปหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ ห้าง Mall of the Emirates ห้างสรรพสินค้าชั้นนำขนาดยักษ์ ที่ประกอบไปด้วยแหล่งบันเทิงต่างๆ และช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ท่านสามารถร่วมพิสูจน์ หิมะตกในทะเลทรายที่ Ski Dubai Complex ลานสกีหิมะขนาดใหญ่แห่งแรกที่สร้างขึ้นบนทะเลทราย(จำลองมาจากเมืองตากอากาศในประเทศวิสเซอร์แลนด์) ภายในมีลานสกีเล็กสำหรับเด็กและลานสกีใหญ่สำหรับผู้ใหญ่ สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเนินสำหรับเล่นสกีได้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเล่นสกีและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (ค่าเข้าไม่รวมในค่าบริการ)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากให้ท่านได้กลับเข้าที่พัก เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการ ตะลุยทัวร์ทะเลทราย (Dune Safari) โดยรถ 4 W/D พร้อมคนขับที่มีประสบการณ์ (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) 1 คัน / 6 ท่าน ท่านจะได้สนุกสนาน และตื่นเต้นพร้อมสัมผัสกับ ประสบการณ์อันแปลกใหม่กับการนั่งรถตะลุยไปบน Dune (เนินทราย) ที่มีทั้งสูงและต่ำสลับกันไป ที่ท้าทายและหวาดเสียวแต่ปลอดภัย อิสระถ่ายรูป (Dubai Sun Set) ชมพระอาทิตย์ตกดิน อันงดงาม..บนเนินทราย สุดแสนโรแมนติก จากนั้นเชิญท่านอิสระ..พร้อมให้ท่านได้สนุกสนานกับการ ขี่อูฐหรือให้ท่านพักผ่อนในแค้มป์กระโจมแบบอาหรับ ซึ่งมีกิจกรรม มากมาย
** อย่าลืม ** เอาแจ็คเก็ต, แว่นตาและกล้องถ่ายรูปไปด้วย **
หมายเหตุ ท่านที่เมารถกรุณาทานยาแก้เมาล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งช.ม./แจ้งหัวหน้าทัวร์ก่อนไปทัวร์ทะเลทราย
ฟรี.. Dune !!- กิจกรรม ภายใน Camp - Henna Tattoo. (ทดลองศิลปะการเพนท์ลวดลายแบบฉบับชาวอาหรับ)
- SHI SHA (เครื่องสูบบารากู่ แบบฉบับของชาวอาหรับ กลิ่นผลไม้)
- GALA BAYA... ให้ท่านแต่งกายพื้นเมืองแบบชาวอาหรับ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
- ฟรี.. ไม่อั้น ชิมชาอาหรับ, อินผาลัม, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, น้ำดื่มอนามัย (ไม่รวมป๊อบคอร์น, และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิเช่น เหล้า, เบียร์, ไวน์ ฯล ซึ่งท่านต้อง ซื้อเพิ่มเองต่างหาก)
18.30 น. รับประทานอาหารค่ำที่แคมป์ พร้อมโชว์สุดอลังการ
- ชมระบำหน้าท้อง (Belly Dance) ศิลปะโชว์จากสาวชาวอาหรับ
- ชมระบำกระโปรง ประดับไฟสวยงาม (Tanora) ศิลปะแห่งการร่ายรำของชายหนุ่ม ซึ่งโชว์ลีลาศิลปะการควง พรมแบบอาหรับ ซึ่งต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อย ประมาณ 3 ปีขึ้นไป
- ระบำอาหรับ (Arabian Dance Show) ซึ่งหาดูได้ยาก มีเฉพาะแถบอาหรับเท่านั้น
ได้เวลาอันสมควร นำท่านกลับสู่ที่พัก ณ GRAND EXCELSIOR HOTEL DUBAI ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ รัฐชาร์จ้าห์ ซึ่งอยู่ห่างจากรัฐดูไบ ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นรัฐที่ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การสหประชาชาติให้รัฐชาร์จ้าห์เป็น จุดศูนย์รวมชาวอาหรับทางด้านวัฒนธรรม และจุดแรกที่ท่านจะได้ชม คือ อนุสาวรีย์ คัมภีร์กุรอ่าน ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งสร้างในรูปแบบ สถาปัตยกรรมสไตล์อาหรับโบราณและชม วงเวียนวัฒนธรรมของชาร์จ้าห์ ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่บ่งบอกให้เห็นถึงความเคารพและนับถือศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวอาหรับ และให้ท่านได้สำรวจตลาดสินค้าต่าง ๆ ที่ ตลาดบลูซุค (Blue Souk) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ มีสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ อาทิเช่น รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องหนัง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งของเด็ก สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมถึงชุดอาหรับประจำชาติ, สินค้าที่ระลึกชั้นนำ อาทิเช่น อูฐ, ทะเลทรายเจ็ดสี และของชำร่วยต่าง ๆ ... ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองดูไบ จากนั้นนำท่านไปยังตลาดทอง (Gold Souk) เป็นตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขายทุกอย่างที่เป็น Jewelry เช่น มุก อัญมณี ต่าง ๆ ร้านเล็ก ๆ จะอยู่หลังร้านใหญ่ มีร้านทองมากมายกว่าร้อยล้าน ให้ท่านได้เลือกซื้อหาลวดลายอันสวยงามแปลกตาหลากหลายดีไซน์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ดูไบ (Dubai Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในตะวันออกกลาง สร้างเมื่อศตวรรษที่ 19 บูรณะครั้งล่าสุดปี 1970 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่น การค้นพบงาน ศิลป์ ภายในหลุมฝังศพที่ Al Qusais ที่มีอายุมากกว่า 4,000 ปี เรื่องราวการค้าขายมุก ในประวัติศาสตร์ ก่อนการค้นพบน้ำมัน ประทับใจกับการนำเทคโนโลยี่ต่างๆ มาถ่ายทอด บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ของชาวอาหรับโบราณด้านในของพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นด้านบนและด้านล่าง ด้านบนจะเป็นแบบจำลองกำแพงหินและกระท่อมแบบชาวพื้นเมืองเก่าๆ สำหรับด้านล่างหรือชั้นใต้ดินจะกว้างใหญ่และลึกลับซับซ้อนมาก มีทั้งภาพวาดสีน้ำของดูไบในอดีต การจัดหุ่นนิ่งแสดงวิถีชีวิตของคนพื้นเมือง มีการจำลองบรรยากาศใต้ทะเลโดยใช้แสงสีจำลอง ทำให้เห็นภาพของชาวดูไบในอดีตทั้งภาพของคนดำหอยมุก ชาวเรือที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการต่อเรือ ภาพของคนงานที่กำลังขนของลงเรือ ซึ่งเป็นการแสดงบรรยากาศของเมืองท่าจริงๆ นอกจากนี้ ยังมีห้องแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาการโบราณแบ่งซอยออกไปอีก โดยจัดแสดงพัฒนาการของตัวเลขและตัวอักษรอาระบิก รวมไปถึงการเรียนรู้วิชาดาราศาสตร์และเรื่องราวของทะเลทราย นำท่านล่องเรือ (Water Taxi) ชมความงดงามของ แม่น้ำครีกส์ (Creek River) เป็นจุดชมทิวทัศน์ มีลักษณะเป็นท่าเรือที่ตัดผ่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์และเป็นย่านชุมชนในดูไบ The Creek เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น ชมวิวทิศทัศน์ ยิ่งผู้ที่สนใจวัฒนธรรมและประเพณีของผู้คนชาติต่างๆ จะต้องรู้สึกชื่นชมและประทับใจกับภาพทั้งสองฟากฝั่ง โดยเฉพาะภาพที่นกนางนวลหลายร้อยตัวบินโฉบฉวัดเฉวียนผ่านเรือสัญจร หรือที่เรียกว่า เรือเดา (dhow) มีลักษณะเป็นเรือใบเสาเดียวทีชาวอาหรับใช้เป็นพาหนะที่แล่นผ่านไปมา และหากคุณล่องเรือไปจนสุดปลายอ่าว คุณจะเห็นทะเลสาบบนเกาะหินปะการังขนาดใหญ่และเป็นที่ตื้นเขิน ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นที่อพยพของสัตว์ โดยเฉพาะนก ที่ในฤดูหนาวจะอพยพมาตั้งหลักแหล่งในคราวเดียวกันถึง 27,000 ตัว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอาบูดาบี เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเป็น Garden of Gulf เพราะความเขียวขจีของตัวเมืองและได้รับการยกย่องว่าเป็นสวรรค์แห่งทะเลทราย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ที่พัก ณ YAS ROTANA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชม Sheikh Zayed bin Sultan al Nahyan Grand Mosque ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3ของโลกและเป็นสุเหร่าประจำเมือง ของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่ท่าน สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี สุเหร่านี้มีพรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง (อย่าลืมนำผ้าคลุมผมติดตัวไปด้วยค่ะ) สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี้ นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บริเวณหน้า โรงแรม Emirate Palace ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 7 ดาว เทียบได้กับโรงแรม Burj Al Arab หรือโรงแรมเรือใบของดูไบ Emirates Palace เป็นโรงแรมของรัฐบาลอาบูดาบี บริหารโดยกลุ่มKempinski เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2548 โดยใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสร้างสวยงามดุจดั่งพระราชวังของเจ้าผู้ครองนคร โรงแรมแห่งนี้อยู่บนที่ของอดีตประธานาธิบดี Sheikh Al Nayan ท่านเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ U.A.E และเป็นเจ้าผู้ครองนครอาบูดาบี้ จากนั้นนำท่านชม Heritage Village & Craft Center ที่ซึ่งรัฐบาลส่งเสริมและ รวบรวมสินค้า พื้นเมือง จำพวก Hand-made ทำโดยชาวบ้าน ไว้แสดงและ ขายให้กับนักท่องเที่ยว อาทิเช่น รูปวาด, ชุด อาหรับ, ผ้าทอ, ของที่ ระลึก, งานหัตถกรรม และพวกสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ภายในยังมีส่วนจัด แสดง วีถีชีวิต และใช้สัตว์เลี้ยงมาช่วยในการทำเกษตรกรรม อื่นๆ ร้านขายของพื้นเมือง และ ส่วนแสดงความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่าน ช้อปปิ้ง ณ Marinal Mall ให้ท่านอิสระเลือกซื้อสินค้า ของฝาก ตามอัธยาศัย (อิสระอาหารเย็น เพื่อให้ท่านมีเวลาช้อปปิ้งอย่างเต็มที่) จากนั้น นำท่านเข้าชม เฟอร์รารี เวิลด์ อาบู ดาบี ซึ่งเป็นสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ ณ กรุงอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ภายในมีทั้งโรงแรม เครื่องเล่น สนามแข่งรถ และพิพิธภัณฑ์ ความโดดเด่นอยู่ที่หลังคาสีแดง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตัวถังของ เฟอร์รารี GT
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินอาบูดาบี...
21.45 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY402
06.50 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ