สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
22-26 ต.ค.57 , 05-09 พ.ย. 57
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ - นิกัมโบ – เมืองอนุราธปุระ
20.30 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารการเดินทาง
22.25 น. นำท่านเหินฟ้าสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 307
00.15 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติประเทศศรีลังกา (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.) ผ่านพิธีการ
ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่ที่พัก
วันที่สอง เมืองอนุราธปุระ- ดัมบุลล่า (B/L/D)
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองอนุราธปุระ (Anuradhapura) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ปัจจุบันเมืองอนุราธปุระได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1982 นอกจากนี้แล้ว อนุราธปุระ ยังเป็นเมืองหลวงของทางการเมืองและศาสนาที่รุ่งเรืองมานานกว่า 1,300 ปี ของชาวซีลอน ปัจจุบันถูกทิ้งร้างหลังจากการรุกรานในปีคริสต์ศักราช 993 (พุทธศักราช 1536) โดยตัวเมืองนั้นซ่อนอยู่ในป่าหนาทึบหลายปีในสถานที่ตั้งที่สง่างามมีพระราชวังสถานที่สำคัญทางศานามากมาย ... เยี่ยมชม วัดอิสุรุมณียะ (Isurumuniya) วัดโบราณซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นวัดแรกแห่งดินแดนสิงหล ณ เกาะศรีลังกา สมัยราชวงศ์ปัลละในช่วงพ.ศ.1200 สร้างติดกับภูเขาขนาดเล็กหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีภาพสลักบนหน้าผา เป็นภาพการเสด็จลงมาจากสวรรค์ของพระแม่คงคา ณ วาลีปุรัม ในอินเดีย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ของทางวัดซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบในเมืองอนุราธปุระ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ปฏิมากรรมคู่รัก (The Lovers) ได้รับการยกย่องว่ามีความอ่อนหวานน่ารักที่สุดชิ้นหนึ่งของศรีลังกา ... ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระนางสังฆมิตตา พระมเหสีของพระโอรสในพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้มาจากพุทธคยา อินเดีย มาปลูกไว้เมื่อ พ.ศ. 235 ซึ่งนับถืงวันนี้ก็มีอายุถึงกว่า 2300 ปีแล้ว และนับเป็นต้นไม้แห่งประวัติศาสตร์ ถือเป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นต้นไม้ที่อายุยืนยาวนานกว่าต้นเดิม (ยังไม่เคยตายเลย) ทางเมืองอนุราชปุระจึงพยายามรักษาด้วยการทำไม้ค้ำยันกิ่งก้านสาขาของต้นศรีมหาโพธิ์ไว้เป็นจำนวนมาก มีกำแพงล้อม 4 ชั้น ในพื้นที่ 4 ไร่ และแยกหน่อมาปลูกไว้รอบๆ อีกกว่า 45 ต้น พุทธศาสนิกชนที่มีความเลื่มใสจะเก็บใบของพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งหาได้ยากมาก เพือนำมาบูชาเป็นสิริมงคลแกตนเอง เจดีย์รุวันเวลิสายะ หรือ มหาถูปา หรือ สุวรรณมาลิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองอนุราชปุระ มีขนาดกว้าง 100 เมตร สูง 100 เมตร เป็นเจดีย์ทรงกลมฟองน้ำ มีกำแพงประดับด้วยช้างหินล้อมรอบรวม 362 เชื่อก มีเนื้อที่ 12.5 ไร่ ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะมีพระประสงค์จะสร้างพุทธสถานอีกแห่งหนึ่งตรงบริเวณที่เป็นเจดีย์รุวันเวลิในเวลาต่อมา และพระมหินทเถระได้พยากรณ์การก่อสร้างไว้ให้ แต่ยังมิทันได้สร้าง พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน เจดีย์รุวันเวลิสร้างสำเร็จโดยพระเจ้าทุฎฐาคามีนีอภัย โดยพระเจดีย์รุวันเวลิสร้างเสร็จในวันที่พระองค์เสด็จสวรรคต เจดีย์ถูปาราม (Thuparamaya) ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วน พระรากขวัญเบื้องขวา (กระดูกไหปลาร้า) พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุด เป็นพระเจดีย์องค์แรกของศรีลังกา ณ สถานที่แห่งนี้พระพุทธองค์เคยเสด็จมาด้วยพระองค์เอง เสด็จเข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน บริเวณรอบสถูปจะมีพระพุทธรูปนั่งปางสมาธิในซุ้มทั้ง 4 ทิศ เพื่อให้สักการะบูชา ได้ทั่วทุกทิศ เพื่อความเป็นสิริมงคล
13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดัมบุลลา ถือเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศ ศรีลังกา เมืองดัมบุลลา เป็นเมืองที่มีถ้ำอยู่บนแท่นศิลาขนาดใหญ่ และสูง 500 ฟุต บนฐานกว้าง1 ไมล์เป็นที่ตั้งของวิหารศิลาอันเลื่องชื่อที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล คือ วัดถ้ำดัมบุลลา (GOLDEN ROCK TEMPLE) กษัตริย์วาลากัมบาทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบุลลา ช่วงที่ พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราธปุระต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นครองราชย์อีกครั้ง พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาที่ทรงคุณค่า ที่สุดในศรีลังกา ซึ่งแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ถ้ำภายในถ้ำแรกพระพุทธรูปปางไสยาสน์ยาว 47 ฟุต แกะสลักจากแท่งหินสำหรับในถ้ำที่ 2 มีพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงประดิษฐานอยู่กว่า 150 องค์ นอกจากนี้ถ้ำอื่นๆยังมีภาพวาดฝาพนังและเพดานที่นับว่ามีเนื้อที่มากที่สุดในโลกและยังมีรูปปั้นของพระพุทธรูปและพระพุทธเจ้าอยู่รอบๆ
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Chaaya Village หรือเทียบเท่า
วันที่สาม ดัมบุลล่า – เมืองแคนดี้ (B/L/D)
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองสิกิริยา นำท่านเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาสิกิริยา (SIGIRIYA) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด เดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น บนยอดศิลาจะพบซากปรักหักพังของพระราชวังในอดีต ชม พระราชวังลอยฟ้า พระราชวังสิกิริยา (Sigiriya Palace) พระราชวังบนยอดเขา อ่างเก็บน้ำโบราณและวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยา ชม ป้อมปราการ หรือ ประตูสิงโต เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเดียวบนเกาะนี้รู้จักกันดีในชื่อ ภูเขาสิงโต (LION ROCK) หรือ แท่นศิลาราชสีห์ ศาสนสถานลอยฟ้าแห่งศรีลังกา สร้างโดยกษัตริย์กัสยปาสมัยศตวรรษที่ 5 ซึ่งอาจจะนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของศรีลังกา เนื่องจากเคยมีสิงโตตัวใหญ่ ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้า ภายในคูรอบป้อมปราการ 3 ชั้น มีแท่นศิลายักษ์สูง 500 ฟุต เป็นหินผาที่เกิดจากภูเขาไฟในอดีต แต่ที่ไม่ได้เรียกเป็นภูเขาเพราะว่าลักษณะของมัน เหมือนก้อนหินยักษ์วางอยู่บนที่ราบ สามารถมองเห็นได้ไกลจากรอบๆด้าน มีความสูงจากพื้น 370 เมตร และด้านบนมีลักษณะแบน ดูรวมๆจึงเหมือนแท่นหินขนาดยักษ์ บนยอดศิลายังคงหลงเหลือ ฐานรากของพระราชวังอันยิ่งใหญ่ในอดีต สวนดอกไม้พร้อมสระว่ายน้ำ มีถ้ำที่ผนังถ้ำที่ยาว 140 เมตร สูง 40 เมตรเต็มไปด้วยภาพวาดเก่าแก่ที่สุด ที่ยังอยู่ในสภาพดี เพราะเป็นภาพเขียนแบบ frescos หรือปูนเปียก ที่วาดลงบนปูนที่ฉาบผนังถ้ำให้เรียบก่อนวาดภาพ รูปวาดสีของชาวสิงหลนี้ เป็นภาพนางอัปสรขนาดเท่าตัวคนซึ่งมีสีสันสดใส และละเอียดอ่อน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองแคนดี้ ระหว่างทาง นำท่านแวะชม สวนสมุนไพรที่ได้รวบรวมปลูกสมุนไพรไว้มากมาย อาทิ ต้นอบเชย ต้นกระวาน ต้นกานพลู ต้นจันทน์ ต้นโกโก้ ต้นวานิลลา ต้นชา กาแฟ ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมมีป้ายบอกสรรพคุณกำกับ โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากสมุนไพรจากธรรมชาติแท้ปลอดสารเจือปนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ขื้นชื่อของสวนสมุนไพรในเมือง Matale ที่ขึ้นชื่อ เช่น น้ำยาปลูกผมสกัดจากน้ำมันพะพร้าวคิงส์โคโคนัท หรือน้ำยาสมุนไพรแก้โรคไขข้อเสื่อม โดยในอดีตเกาะลังกา เป็นเมืองที่ส่งออกสมุนไพรสู่ประเทศทางยุโรปและตะวันออกกลางที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
หลังจากนั้นนำท่านชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองแคนดี้จากยอดเขา มองเห็นทะเลสาบและตัวเมืองที่สวยงาม ชม วัดบุปผาราม หรือวัดพระอุบาลี ตั้งอยู่ริมทะเลสาบแคนดี้ เป็นวัดที่พระอุบาลีและคณะสมณฑูตจากกรุงศรีอยุธยามาทำการบรรพชาให้ภิกษุชาวศรีลังกา ในสมัยพระเจ้าบรมโกศ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ “นิกายสยามวงศ์” นำท่านเดินทางเข้าสู่ วัดพระเขี้ยวแก้ว นมัสการ พระ เขี้ยวแก้ว ซึ่งประดิษฐานอยู่ในผอบและอยู่ในเจดีย์อีก 4 ชั้น อยู่ในห้องกระจกกันกระสุน มีประตูเงิน ประตูทอง พระทันตธาตุองค์นี้เป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายบนของพระพุทธองค์ โดยพระเขมเถระได้อัญเชิญจากจิตกาธาร (เชิงตะกอน) เมืองกุสินาราไปถวายพระเจ้าพรหมทัตแห่งนครทันตปุระ แคว้นกลิงค์ จากนั้นจึงตกทอดมายังเกาะลังกา มีประวัติที่แปลกพิสดารกว่า 2,000 ปี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านชมระบำพื้นเมืองของประเทศศรีลังกา “แคนเดี้ยน แดนซ์” (Kandyan Dance) ที่สืบทอดกันมากว่า 2000 ปี ซึ่งการแสดงที่เห็นทุกวันนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างระบำพื้นเมืองแบบดั้งเดิมกับระบำร่วมสมัย ลีลาและท่วงท่าของระบำนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของความเป็นศรีลังกาแล้ว ยังแสดงถึงศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวพื้นเมืองอีกด้วย
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Cinnamon Citadel หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ แคนดี้ – โคลัมโบ – นิกัมโบ – สนามบิน (B/L/D)
06.30 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
อำลาเมืองแคนดี้... นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงโคลัมโบ นครหลวงของศรีลังกา (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที)
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ กรุงโคลัมโบ แวะชม วัดกัลยาณี ชมมหาวิหารและเคยเป็นวัดที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาด้วยพระองค์เองเมื่อ 2,500 ปี ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามและพระพุทธรูปที่นำมาจากประเทศไทยไปประดิษฐานไว้ หลังจากนั้นนำท่านชม วิหารกลางน้ำ ซึ่งรอบๆวิหารมีพระพุทธรูปมากมายที่นำมาจากประเทศไทย จากนั้นนำท่านชม วัดคงคาราม อันเป็นที่สังฆกรรม ชมรูปปั้นสลักปูนอันสวยงามในวิหารและโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา นำท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ศูนย์การค้าและซื้อชาเพื่อเป็นของฝาก
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
วันที่ห้า โคลัมโบ – กรุงเทพฯ
01.40 น. เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 308
06.35 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ