ข้อมูลประกาศ 010038
  • 89,900 บาท
ข้อมูลติดต่อ
  • 99worldtravel
  • เขตชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร
  • 023314146,0922518139
  • 22 ก.ย. 2557 15:54 น.

99KEP-EK-GRAND-RIVIERA

สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
ปี 2557 ราคา 89,900 บาท : 10-20 ต.ค./ 21-30 พ.ย./ 3-12 ธ.ค.
ปี 2558 ราคา 89,900 บาท : 22-31 ม.ค./ 20 ก.พ.- 1 มี.ค./ 12-21 มี.ค./ 20-29 มี.ค.
เทศกาล ราคา 93,900 บาท : 24 ธ.ค. 57 – 2 ม.ค. 58 / 10-19 เม.ย. 58 / 11- 20 เม.ย. 58
วันแรก กรุงเทพมหานคร

23.30 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอิน T (แถว T 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส (EK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

วันที่สอง ดูไบ – นีซ - มอนติ คาร์โล

02.25 ออกเดินทางสู่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบิน EK 371 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายผ่าน จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯมีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบินสู่ มหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
05.35 น. เดินทางถึงนครดูไบแวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน EK 77 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินดูไบ ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย
09.25 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ (DXB) สู่สนามบินนีซ (NCE) โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชม.)
14.25 น. เดินทางถึงสนามบินนีซ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ นครรัฐโมนาโค (Monaco) (ระยะทาง 22 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ซึ่งเป็นชื่อเรียกประเทศเล็กๆในทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนชายฝั่งส่วนสุดท้ายของฝรั่งเศส จัดเป็นประเทศที่เล็กเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากนครรัฐวาติกันในอิตาลี รัฐโมนาโคถูกล้อมรอบด้วยประเทศฝรั่งเศสและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีพื้นที่ของประเทศเพียง 1.95 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น มีเมืองหลวงชื่อว่า “โมนาโค-วิลล์” ยังคงเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตย โดยมีเจ้าผู้ครองนครราชรัฐเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยมีราชวงศ์กริมาลดีปกครองสืบทอดมากว่า 700 ปี นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์นิโคลัส (The Cathedral of St. Nicolas) สถานที่ฝังพระศพของเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโคและราชวงศ์กริมาลดี โดยเจ้าหญิงเกรซได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ.1982 ด้วยพระชนมายุเพียง 52 พรรษา เจ้าหญิงเกรซและเจ้าหญิงสเตฟานี พระราชธิดาได้ขับรถมุ่งสู่โมนาโคจากที่ประทับในชนบทและเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์พลิกคว่ำตกจากไหล่เนินเขาและทรงสิ้นพระชนม์ในวันรุ่งขึ้น โดยพระศพของเจ้าหญิงเกรซได้รับการฝังไว้ที่โบสถ์แห่งนี้ และต่อมาในปี ค.ศ.2005 เจ้าชายเรนิเยร์ก็ถูกฝังไว้เคียงข้างเจ้าหญิงเกรซ จากนั้นนำท่านเข้าชมพระราชวังหลวงแห่งโมนาโค (Prince's Palace of Monaco) พระราชวังที่เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของกษัตริย์แห่งราชวงศ์กริมาลดีมาตลอด ตั้งแต่เข้าปกครองโมนาโคในปี ค.ศ. 1297 จนถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านบันทึกภาพตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองนีซ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก MERCURE NICE GRIMADI **** หรือเทียบเท่า










วันที่สาม คานส์ - แซงต์โตรเปซ์ - ตูลง - มาร์กเซย์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคานส์ (Cannes) (ระยะทาง 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) หรือเมืองซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ตั้งอยู่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกของฝรั่งเศส และติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีทิวทัศน์สวยงามทั้งภูเขาและท้องทะเล นำท่านแวะถ่ายรูปกับ หอประชุมที่ใช้จัดแสดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ (Cannes Film Festival Hall) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองแซงต์โตรเปซ์ (St. Tropez) อีกเมืองตากอากาศชื่อดังของชายฝั่งริเวียร่า ซึ่งดาราที่มีชื่อเสียงและเซเลปคนดังมักจะมาพักผ่อนในวันหยุดอยู่เป็นประจำ ในอดีตเคยเป็นเมืองป้อมปราการทางทหารและถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางทะเลของประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 หลังสงครามโลกได้กลายมาเป็นเมืองพักตากอากาศทางทะเลชื่อดัง นำท่านเข้าชม ป้อมปราการแห่งแซงต์โตรเปซ์ (Citadel of St.Tropez) ป้อมปราการเชิงเขาริมทะเลอันแข็งแกร่ง สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เพื่อป้องกันข้าศึกชาวสเปนที่รุกรานทางทะเล ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้มีความสวยงาม โดยยังคงรูปลักษณ์เมื่อครั้งโบราณกาลอยู่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองตูลง (Toulon) (ระยะทาง 68 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่าทางทะเลและฐานทัพเรือที่สำคัญของฝรั่งเศสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีอู่เรือและคลังแสงของกองทัพเรือ นอกจากอุตสาหกรรมหลักของเมืองซึ่งทำการต่อเรือแล้ว ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การประมง การผลิตเหล้าองุ่น โรงงานกระดาษ โรงงานยาสูบ ฯลฯ ได้เวลานำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขามองค์ฟาฮอง (Mont Faron) ภูเขาประจำเมืองตูลง มีความสูงประมาณ 582 เมตร หรือ 1916 ฟุต ซึ่งปกติสามารถขึ้นเขาได้ 2 ทาง คือโดยกระเช้าไฟฟ้า หรือเดินลัดเลาะตามทางขึ้นเขาไป นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสนามแข่งจักรยานวิบากที่มีความท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งบนคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ชมทัศนียภาพและเก็บภาพเมืองตูลงจากมุมสูง ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองมาร์กเซย์ (Marseille) (ระยะทาง 67 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก PULLMAN MARSEILLE PROVENCE AIR **** หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ มาร์กเซย์ - เอ็กซ์ ออง โพรวองซ์ - อาร์วิญง
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าชม โบสถ์นอทเทอดาม เดอลาการ์ด (Basilique Notre-Dame de la Garde) ตั้งอยู่บนยอดเขา โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคนแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัย และเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของแก้บน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเทศบาลเมืองได้ปรับปรุงให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานอันศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมาร์กเซย์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย



บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็กซ์อองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) (ระยะทาง 32 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) บ้านเกิดของจิตรกรเอกของโลก “Paul Cezanne” เมืองนี้อดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของแคว้นโพรวองซ์ เป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยโรมันรุ่งเรืองมากในสมัยศตวรรษที่ 15 เพราะเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาศิลปะและวิทยาการ ในศตวรรษที่ 17-18 มีการปรับปรุงเมืองอาคารต่างๆให้สวยงามขึ้น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยว งดงามด้วยน้ำพุ อาคารบ้านเรือนแบบบาโร๊คที่หรูหรา ถือเป็นเมืองสวยที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส นำท่านสู่ ย่านเมืองเก่า Vieille Ville ชมย่านกูร์มิราโบ (Cours Mirabeau) เมืองแห่งน้ำพุ ถนนสายสำคัญที่สุดของเมือง สองฟากถนนปลูกต้นไม้โมรีนตลอดทาง มีน้ำพุประดับถนนเป็นระยะๆ เช่น The Great Fountain (1860) , Fountain of 9 Cannons (1691) จุดดึงดูดนักท่องเที่ยว คือร้านกาแฟ ดัง และ บรรยากาศ รอบด้าน อิสระให้ท่านเดินเล่นในเมืองตามอัธยาศัย นำท่านแวะชม โรงงานผลิตน้ำหอมอันมีชื่อเสียงของเมือง มีเวลาให้ท่านแวะซื้อน้ำหอมตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดิทางสู่ เมืองอาร์วิญง (Avignon) (ระยะทาง 96 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารแบบเอเชีย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก MERCURE PONT D'AVIGNON **** หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า อาร์วิญง - เรอมูแลง - นีมส์

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมือง อาร์วิญง (Avignon) ถูกขนานนามว่า "เมืองแห่งพระสันตะปาปา" เนื่องจากในอดีตนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา (รวมทั้งพระสันตะปาปาเท็จ) ตั้งแต่ปีค.ศ. 1309 - ค.ศ. 1423 ในช่วงของการแตกแยกครั้งใหญ่ของคริสต์จักร (Catholic Schism) นอกจากนี้อาร์วิญงยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในประเทศฝรั่งเศส ที่ยังมีกำแพงเมืองเก่าที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ นำท่านเข้าชมพระราชวังของโป๊ป (Palais De Papes) พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างของสถาปัตยกรรมในแบบโกธิคที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายภาพกับ สะพานเซนต์ เบเนเซ่ (Pont Saint-Bénézet) หรือที่หลายคนเรียกว่า สะพานแห่งเมืองอาร์วิญง (Pont d’Avignon) หรือสะพานหัก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1177 ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโรนที่สร้างด้วยหิน และยังเหลืออยู่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย



บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเรอมูแลง (Remoulins) (ระยะทาง 23 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดการ์ แคว้นล็องก์ด็อก-รูซียง ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานโรมันปงดูว์การ์ (Pont du Gard) สะพานส่งน้ำโรมันโบราณสร้างโดยจักรวรรดิโรมัน สร้างพาดผ่านแม่น้ำการ์ดง เป็นส่วนหนึ่งของระบบส่งน้ำของเมืองนีมส์ มีความยาวกว่า 50 กิโลเมตร เพื่อส่งน้ำจากจากเมืองอูว์แซ็ส นักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่าสะพานถูกสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดยสะพานแห่งนี้จัดเป็นสะพานส่งน้ำที่สร้างในสมัยจักรวรรดิโรมันที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง รองจากสะพานส่งน้ำแห่งเซโกเบีย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1985 โดยองค์การยูเนสโก ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองนีมส์ (Nimes) (ระยะทาง 28 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปี นับตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันเป็นต้นมา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักอีกแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส นำท่านชม 3 โบราณสถานแห่งเมืองนีมส์ คือ อัฒจันทร์แบบโรมันโบราณ (Arena) วิหารโรมัน (Maison Caree) และหอคอยมาญ (Tour Magne) ซึ่งสถานที่ทั้งสามยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จนเมืองนีมส์ได้ถูกเรียกเป็น "กรุงโรมแห่งฝรั่งเศส" เลยทีเดียว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก BEST WESTERN L'ORANGERIE **** หรือเทียบเท่า

วันที่หก นีมส์ - มองต์เปอลิเยร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำกรอต เดสเดมัวเซย์ (Grotte des Desmoiselles) (ระยะทาง 52 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ถ้ำลึกลับขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในหุบเขาทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ตำนานการค้นพบถ้ำแห่งนี้ ถูกเล่าต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยชายเลี้ยงแกะ ซึ่งได้ตามหาแกะซึ่งพลัดหลงจากฝูงไป จนกระทั่งพลัดตกลงไปในถ้ำอันมืดมิดความสูงกว่า 60 เมตร และหมดสติไป และได้มีนิมิตรเห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเต้นระบำรอบตัวเขา ชายผู้นั้นรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเขากลับออกมาอยู่นอกถ้ำแล้วพร้อมกับแกะที่หายไป จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ตามภาษาท้องถิ่นว่า ถ้ำแห่งเทพธิดากรอตโต้ หรือถ้ำแห่งนางฟ้ากรอตโต้ และนับจากปี ค.ศ.1931 ถ้ำนี้ได้ถูกติดตั้งระบบรถรางแล้วระบบไฟส่องสว่าง และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมจนกระทั่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของภูมิภาคนี้ นำท่านเข้าชมถ้ำหินงอกหินย้อยอันน่าพิศวง ภายในตัวถ้ำจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีราว 14 องศาเซลเซียส ชมหินงอกหินย้อยที่ถูกสรรค์สร้างจากธรรมชาติได้อย่างลงตัวและงดงาม

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองต์เปอลิเยร์ (Montpelier) (ระยะทาง 52 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นเมืองที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาของฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมองต์เปอลิเยร์ (Montpellier University) อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย นำท่านเที่ยวชมเมืองมองต์เปอลิเยร์ โดยเริ่มจาก พลาซา เดอลา คอมเมดี (Place de la Comedie) จตุรัสหลักที่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง โดยจตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมือง บริเวณโดยรอบจตุรัสประกอบด้วยเหล่าอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ส่วนใจกลางจตุรัสนั้นเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุขนาดใหญ่ หรือที่มักเรียกกันว่า Three Graces หลังจากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ ประตูชัยฝรั่งเศส (Porte du Peyrou) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของสวนรุกขชาติและสวนพฤกษศาสตร์ Jardin des plantes โดยซุ้มประตูออกแบบโดย Francois Dorbay การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1693 สถาปัตยกรรมการตกแต่งตามซุ้มประตูได้จารึกเหตุการณ์สำคัญจากรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นำท่านแวะชม มหาวิหารมองต์เปอลีเยร์ (The Cathedral of St.Pierre) มหาวิหารตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ในแบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่โตที่สุดในเมืองมองต์เปอลีเยร์ และเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นล็องก์ด็อก-รูซียงอีกด้วย มหาวิหารมองต์เปอลีเยร์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ. 1906
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก CROWNE PLAZA MONTPELLIER CORUM **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด เบซีเยร์ – แปร์ปิยอง – บาร์เซโลน่า (พักค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบซีเยร์ (Berzier) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องเทศกาลสู้วัวกระทิง โดยในปีๆหนึ่ง จะมีนักท่องเที่ยวนับล้านเดินทางมายังเมืองเบซีเยร์ เพื่อเข้าชมเทศกาลต่อสู้วัวกระทิงเป็นเวลา 5 วันติดกันในเดือนสิงหาคมของทุกปี นำท่านแวะชม วิหารแห่งเมืองเบซีเยร์ (Bezier Cathedral) หรือที่รู้จักกันในนาม Cathedral of St.Nazaire โบสถ์โรมันคาทอลิกส์ สร้างขึ้นบนเชิงเขาเมื่อศตวรรษที่ 13 แบบสไตล์โรมาเนสก์ ทัศนียภาพบนวิหารแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวทั้งตัวเมืองเบซีเยร์ได้อย่างงดงามเลยทีเดียว

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองแปร์ปิยอง (Perpignan) (ระยะทาง 94 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) อดีตเมืองหลวงของแคว้นมาร์ยอก้าแห่งดินแดนคาร์ตาลันในช่วงศตวรรษที่ 13-14 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส และปัจจุบันอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสเช่นกัน นำท่านเข้าชม พระราชวังแห่งกษัตริย์นครมาจอร์ก้า (Palace of the Kings of Majorca) เป็นพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นแบบโกธิคสไตล์ช่วงต้นศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์เจมส์ที่สองแห่งมาจอร์ก้า โดยจุดประสงค์สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการในการป้องกันข้าศึก ในพระราชวังยังมีโบสถ์อยู่ภายในป้อมปราการอีกสองโบสถ์ด้วยกัน คือโบสถ์ของราชินีและโบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารแปร์ปิยอง หรือวิหารแห่งเซนต์จอห์นเดอะแบ๊ปติส (Cathedral of St.Jean Baptiste) สถาปัตยกรรมโกธิคแบบเมริเดียนัลตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 เครื่องเรือนและเครื่องตกแต่งภายในมหาวิหารมีความวิจิตรอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระแท่นบูชาเอก (เป็นงานสมัยศตวรรษที่ 16 - 19 พร้อมประวัติศาสตร์อันยาวนาน) ออแกน (สร้างราวปีค.ศ. 1504 พร้อมงานลงสีและตกแต่งด้วย) งานกระจกสีแบบนีโอโกธิค (งานสมัยกลางศตวรรษที่ 19) และที่สำคัญคือ พระเยซูตรึงไม้กางเขน (งานไม้แกะสลักสมัยศตวรรษที่ 14) ซึ่งตั้งอยู่ในชาเปลที่ใช้ชื่อเดียวกัน ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) ประเทศสเปน (ระยะทาง 192 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ABBA SANTS **** หรือเทียบเท่า (พักค้าง 2 คืน)

วันที่แปด บาร์เซโลน่า - ยอดเขามองเซอร์รัต - ช้อปปิ้งเอาท์เลต

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ยอดเขามองเซอร์รัต (Montserrat) นำท่านเข้าชมวิหารมองเซอร์รัตซึ่งตั้งอยู่บนเขามองเซอร์รัตที่สูงถึง 1,236 เมตรจากน้ำทะเล ภูเขามองเซอร์รัต มีลักษณะรูปทรงเป็นหินตะปุ่มตะป่ำแปลกประหลาดโดยคำว่า Montserrat หมายถึง ปุ่มปม ซึ่งในภาษาคาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาหลักของคนในแถบนี้ใช้สื่อสารกัน ว่ากันว่าบริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อนเพราะยังมีซากเศษหอยอยู่ทั่วไปรวมไปถึงหินรูปทรงประหลาดของยอดเขาก็คาดว่าเกิดจากแรงดันตามธรรมชาตินับล้านปีมาแล้ว อาณาบริเวณที่ตั้งของวิหารมองเซอร์รัตซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาได้อย่างตระการตานั้น มีพื้นที่กว้างขวางจนทำให้ฉงนว่าผู้คนในอดีตนำวัสดุก่อสร้างมากมายขึ้นมาสร้างบนเขาที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร เหมือนเมืองในฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ภายในวิหารมีศิลปกรรมที่งดงามตระการตามากมายให้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมรูปปั้นที่ตกแต่งบนอาคารทั้งหลายที่งดงามเกินบรรยาย รอบๆบริเวณวิหารมีทั้งโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิค โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ห้องสมุด ห้องแสดงศิลปะ และสำนักนักบวชเบนาดิก(Benedictine) ซึ่งเป็นองค์กรนักบวชคาทอลิคบริหารวิหารอยู่บนนี้ สถานที่ทั้งหมดจึงเป็นบรรยากาศแบบเงียบเรียบสงบตามแบบฉบับสำนักปฎิบัติธรรมของนักบวช โดยมีจุดเด่นที่มีพระแม่มารีดำ (Black Madonna หรือ The Virgin of Montserrat) ที่มีชื่อเสียงประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวสเปนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิคส่วนใหญ่เขามีความเชื่อว่าภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ลา โรคค่า เอาท์เลต (La Roca Village Shopping Center) เอาท์เลตแบรนด์เนมขนาดใหญ่ใกล้เมืองบาร์เซโลน่า จุใจกับสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น Camper, Coach, Gucci, Guess, G-Star, Lacoste, Loewe, MAxMara, Ray Ban, Samsonite, Tag Heuer, Timberland, Versace, etc. อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา ถนนลารัมบลา (Larambla) ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de gracia ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีกมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ABBA SANTS **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)

วันที่เก้า บาร์เซโลน่า – มหาวิหารซากราด้า แฟมิเลีย
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายในแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2026 อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้

12.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินบาร์เซโลน่า (BCN) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund

***หลังทำการได้รับบอดดิ้งพาสแล้ว อิสระให้ท่านรับประทานอาหารกลางวันภายในบริเวณสนามบิน***

16.10 น. ออกเดินทางจากบาร์เซโลน่ากลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK186 (ใช้เวลาบินประมาณ 7.40 ชั่วโมง) บริการอาหารค่ำ เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน

วันที่สิบ ดูไบ - กรุงเทพมหานคร
00.50 น. เดินทางถึงนครดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง
03.05 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK384 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการ อาหารเช้า
12.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

รายละเอียดสินค้า 99KEP-EK-GRAND-RIVIERA

ข้อมูลติดต่อ
  • 99worldtravel
  • เขตชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร
  • 023314146,0922518139
  • 22 ก.ย. 2557 15:54 น.


คำเตือน!! อย่าโอนเงิน มัดจำล่วงหน้า ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ควรนัดเจอกัน พื้นที่โล่ง ไม่ไปคนเดียว และตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงินทุกครั้งที่มีการซื้อขาย