สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
กำหนดการเดินทาง
ราคาทัวร์ 99,900 บาท : 5-12 ธ.ค. / 27 ธ.ค.- 3 ม.ค. / 24-31 ม.ค. / 20-27 ก.พ. / 14-21 มี.ค.58/21-28 มี.ค. / 25 มี.ค. – 1 เม.ย. / 26 เม.ย. – 3 พ.ค
ราคาทัวร์ 106,900 บาท : 9 – 16 เม.ย. / 10 – 17 เม.ย. / 12 – 18 เม.ย. / 25 เม.ย. – 2 พ.ค
วันแรก กรุงเทพมหานคร
11.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน สายการบินสวิสแอร์ แถว G 1-6 (Row G) ประตูทางเข้าที่ 4 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
13.00 น. ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX 181 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารกลางวัน และ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.30 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Holiday Inn Zurich Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่สอง น้ำตกไรน์ - เซ็นต์ มอริทซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและให้ท่านได้เก็บภาพความงามตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเซ็นต์ มอริทซ์ (St. Moritz) (ระยะทาง 241 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.25 ชั่วโมง) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านชมความงดงามของเซนต์มอริทซ์เลค (Lake St. Moritz) ซึ่งหากมาในช่วงฤดูร้อนจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกต แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจตุรัสพลาซาดาสโกวล่า (Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 72 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Europe Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่สาม เซ็นต์ มอริทซ์ - อันเดอร์แมท – นั่งรถไฟสายโรแมนติก กลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส – ทาช
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) (ระยะทาง 209 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) อีกเมืองเล็กที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นรถไฟสายโรแมนติกกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส ระหว่างทางสู่เมืองอันเดอร์แมท ท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพทุ่งหญ้า สลับกับเทือกเขาแอล์ป ซึ่งมีความสวยงาม สบายตา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่าน นั่งรถไฟสายโรแมนติก สายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 2 ชั่วโมงจากเมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) สู่ เมืองทาช (Taesch) เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบทูน (Thuner See) และ ทะเลสาบเบรียงซ์ (Brienzer See) เสมือนเมืองแห่งนี้ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งในเส้นทาง Furka-Oberralp Bahn ที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์ อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสิ้นสุดการเดินทาง ณ เมืองทาช (Taesch) (ในช่วงหน้าหนาว หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากมีหิมะ รถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส อาจไม่เปิดให้บริการ ทางทัวร์จะจัดรถไฟที่วิ่งในเส้นทางเดียวกันทดแทน เพื่อให้ท่านได้ชมธรรมชาติแบบเดียวกัน)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Elite Hotel *** หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ เซอร์แมท – นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น – ทาช – มองเทรอซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน นั่งรถไฟสายโรแมนติก สายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) ต่อสู่สถานีเซอร์แมท (Zermatt) เมืองที่ตั้งอยู่เชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยอดเขาแหลมสูงชันสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่สกีฤดูหนาวและฤดูร้อนที่กว้างใหญ่ เมืองเซอร์แมทนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ปราศจากมลภาวะโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ภูเขาที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ในส่วนของสวิตเซอร์แลนด์ และBreuil-Cervinia ใน Val Tournanche ในส่วนเมืองของอิตาลี เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น” นี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกอม “ริกัวล่าร์” และ “พาราเมาท์พิคเจอร์” โดยบริษัทภาพยนตร์ พาราเม้าท์ พิคเจอร์ ของฮอลลีวู้ด ได้นำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาที จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Best Western Eurotel Riviera Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า มองเทรอซ์ - เข้าชมปราสาทชิลยอง – เวเว่ย์ – โลซานน์ – เจนีวา – กรุงเบิร์น – อินเตอร์
ลาเก้น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นอนุสาวรีย์แห่งความเกลียดชังของชาวสวิส ในปี ค.ศ.1530 เกิดการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของราชวงศ์ซาวอย โดยมีคนหนุ่มเลือดร้อนแห่งเจนีวา 3 คน ได้เป็นผู้นำต่อต้าน แต่ท้ายที่สุดคนหนึ่งถูกจับประหารชีวิต คนหนึ่งหนีหายไป ส่วนอีกคนหนึ่ง ถูกจับขังคุกล่ามโซ่ไว้ที่ปราสาทชิลยองนานถึง 4 ปี ก่อนที่ราชวงศ์ซาวอย จะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงจากกองทัพแห่งเบิร์นในปีค.ศ.1536 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)" ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล นำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) (ระยะทาง 18 กม. ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที) นำท่านชม เมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
นำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วกรุงเจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864 นำท่านชม น้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี ค.ศ.1886 นำท่านแวะถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) (ระยะทาง 167 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพตามอัธยาศัยหรือจะเลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมและซื้อของที่ระลึก ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเก้น (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ (ระยะทาง 58 กม. ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ อีกมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Metropole Interlaken Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่หก อินเตอร์ลาเก้น - ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก) – ลูเซิร์น – ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามเป็นสถานที่โรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนน สู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิสเซอร์แลนด์ ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับ พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (TOP OF EUROPE) นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง SPHINX จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร และไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนยอดเขาจุงเฟรา
บ่าย นำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440) นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านสัมผัสบรรยากาศการล่องเรือในทะเลสาบลูเซิร์น ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์โดยรอบทะเลสาบ และ ถ่ายรูปตัวเมืองลูเซิร์นในอีกมุมหนึ่ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Grand Europe Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ลูเซิร์น – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบเอเชีย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 61 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนถนน บานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็น ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู ถัดจากถนนบานโฮฟซตราสเซอ คือ ถนนออกัสตินเนอร์กาส (Augustinergasse) ถนนเก่าแก่สายเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากช่างฝีมือในยุคกลาง ไฮไลท์การท่องเที่ยวคือการไปชมความงดงามของเหล่าหน้าต่างไม้แกะสลักตามอาคารต่างๆบนถนนแห่งนี้
15.00 น. นำท่านสู่สนามบินซูริค เพื่อเชคอินและทำคืนภาษี (Tax Refund)
17.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบินที่ LX180
วันที่แปด กรุงเทพมหานคร
10.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)