ทัวร์วิถีไทย ณ หมู่บ้านไทยท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

ทัวร์วิถีไทย ณ หมู่บ้านไทยท้ายเหมือง
ราคา 2,470 บาท

เที่ยวไทยวิถีไทย เยือนท้ายเหมือง 1 วัน
07:00 รับท่านจากโรงแรมที่พัก ในพื้นที่เขาหลัก
08:00 เที่ยวชมตลาดท้ายเหมือง มนต์เสน่ห์แห่งวิถีและอาหารการกิน
09:00 เข้าศักการะ และเยี่ยมชมวัดท่าไทร โบสถ์ไม้สถาปัตยกรรมช่างสิบหมู่ ติดริมทะเล แห่งแรกของประเทศไทย
10:15 เยี่ยมชมศาลเจ้า จุดรวมใจคนท้ายเหมือง
11:00 เข้าชมศูนย์อนุบาลเต่าทะเล ท้ายเหมือง
12:00 รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหารขึ้นชื่อ แห่งเมืองท้ายเหมือง
13:00 กิจกรรมร่วมกับคนท้ายเหมือง *พิเศษ
15:00 ส่งท่านกลับยังที่พัก ในพื้นที่เขาหลัก

ต้องเตรียมอะไรไปดี?
-ชุดลำลองแบบสุภาพ เหมาะสัมผัสไปวัด หรือ เข้าศาลเจ้า
-ชุดว่ายน้ำ
-ผ้าเช็ดตัว
-ครีมกันแดด
-หมวกกันแดด-
-แว่นกันแดด
-กล้องถ่ายรูป
-เงินสดเล็กน้อย กรณีอยากซื้อของฝาก


เสน่ห์ ที่ห้ามพลาดโปรแกรมนี้
-เที่ยววิถีไทยเป็นกระแสที่น่ารักน่าสนใจ และแต่ละที่ที่ไปจะไม่มีวันเหมือนกันเลย
-เข้าศักการะ พระประธานหยกขาว ของวัดเทสก์ธรรมนาวา หรือ วัดท่าไทร ซึ่งเป็นวัดที่มีโบสถ์ไม้ ติดบรรยากาศริมทะเล แห่งแรกของประเทศไทย
-ฟังธรรม ทำบุญ ถวายกระทงดอกไม้ เป็นพุธบูชา เสริมมงคลชีวิต
-เยียมชมศาลเจ้าเล้งสันเก้งแห่งเมืองท้ายเหมือง ซึ่งมีอายุยาวนานถึง 145 ปี ในช่วงที่มีการทำเหมืองแร่ คนจีนไหหลำ ฮกเกี้ยน แต้จ๋ว มาจากพลัดพรากจากบ้านเมืองมา จึงได้สร้างสิ่งยึดเหนื่ยวจิตใจ มีโรคภัยไข้เจ็บมาเป็นที่พึ่ง หยูกยา การรักษาโรค
-เที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเล ท้ายแหมือง
แวะร้านโกปี้ หรือ ร้านกาแฟ จุดนัดพบของคนท้ายเหมือง บรรยากาศชวนให้นึกถึงวันวาน ที่กรุ่นด้วยเรื่องราวเก่าๆ ยุคเหมืองแร่ฟูเฟื่อง
-เที่ยวตลาดท้ายเหมือง ตลาดผสมวัฒนธรรมไทย-จีน ของกินหลากหลาย น่าสนใจทั้งนั้น
-ทานอาหารเที่ยง แบบชาวท้ายเหมือง เมืองเล็ก แต่แสนอบอุ่น
-เดินเล่นริมหาดท้ายเหมือง ดูเส้นทางวางไข่เต่าทะเล


เที่ยวแบบวิถีไทย คือ กระแสที่ไม่มีวันเชยหรือล้าสมัย มันยังมีเสน่ห์ในตัวเองเสมอ นี่เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่พี่น้องชาวไทยผู้สนใจจะมาท่องเที่ยวในพื้นที่เขาหลักจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนไทยต่างถิ่น ที่มีวิถีชีวิตหลากหลายและอาจแตกต่างจากชีวิตเดิมๆของท่าน คงดีไม่น้อยหากการรู้จักกันกันในครั้งนี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ท่าน
เล่าเรื่องเมืองท้ายเหมือง
ครั้งนี้เราจะนำท่านไปยัง ชุมชนท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จุดเด่นคือ เป็นอำเภอที่มีที่ราบมากที่สุดของจังหวัดพังงา ซึ่งเมื่อครั้งอดีตอุดมไปด้วยสินแร่ดีบุก จึงชักนำผู้คนต่างถิ่นฐานบ้านเกิด ให้มารวมตัวกันที่ชุมชนแห่งนี้ ทั้งชาวจีนผู้หอบสื่อผืนหมอนใบจากโพ้นทะเล มีทั้งชาวแต้จ๋ว ฮกเกี้ยน และ จีนกลาง ชาวไทยอีสาน ชาวใต้จากจังหวัดอื่นๆ ล้วนมาเพื่อหวังอนาคตอันรุ่งโรจน์ นี่คือ อีกหนึ่งตำนานคนเหมืองแร่ ที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือนหายไป
ราวๆ ปี พ.ศ. 2500 เหมืองแร่มากมายผุดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ผู้คนต่างหลั่งไหลมาที่ท้ายเหมือง เพื่อทำงานในเหมืองแร่ดีบุก หรือ คนพื้นเมืองรู้จักกันในนาม “ตะกั่วดำ” โลหะที่มีค่ามากมายในช่วงเวลานั้น เพราะว่าเป็นในงานหล่อสำริดนั้นต้องอาศัยดีบุกเป็นส่วนประกอบหลักรวมทั้งแร่ดีบุกถือเป็นธาตุหลักที่ใช้ในการทำเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือ เครื่องประดับ ประกอบกับในยุคปี พ.ศ 2382 ชาวอังกฤษ ชื่อว่า “ ปีเตอร์ ดูรองต์” ได้ค้นพบว่าการเก็บถนอมอาหารได้นานหากบรรจุในกระป๋องชุบดีบุก ยิ่งทำให้แร่ดีบุกมีมูลค่ามหาศาลขึ้นไปอีก
บ้านเมืองในยามนั้น เปรียบดังยุคขุดทองในหนังของอเมริกาก็ไม่ปาน คนงานเหมืองต่างตามหาสายแร่กันอย่างหนัก ทั้งขุด ร่อน สูบ ฉีด สารพัดวิธีการที่ปรับเปลี่ยนกัน วิธีการได้มาซึ่งแร่ดีบุก เริ่มจากการใช้เลียงร่อนหาในตะกอนหินทรายตามแม่น้ำ แล้วค่อย ๆ พัฒนามาเป็นเหมืองปล่องที่ขุดลึกลงไปเป็น 10 เป็น 100 ฟุต ตามสายแร่กันบนภูเขา มาสู่ยุคเหมืองหาบ เหมืองสูบ เหมืองฉีด ที่คนจีนหอบเสื่อผืนหมอนใบหลั่งไหลกันมาจนยุคของเรือขุดแร่
ช่วงนั้น ธนบัตรมีมากเหมือนใบไม้ จับจ่ายใช้สอยเหมือนไม่มีวันหมด แร่ดีบุกเต็มแก้วกาแฟโบราณได้น้ำหนักราว 1 กิโลกรัม มีราคาถึง 130 บาท ค่าแรงคนแรงงานขึ้นต่ำวันละ 12 บาท 50 สตางค์ กาแฟ ราคาแก้วละ 50 สตางค์ เหมืองแร่จึงคึกคักมีการจับจ่ายกันอย่างสนุกสนาน มีโรงหนังถึง 3 โรง โรงแรมใหญ่อีก 3 โรง สารพัดโรงมโหรสพ เช่น เวทีมวย เวทีรำวง เหล่านักร้องและนักมวยดัง ๆ ในยุคนั้นล้วนเคยมาที่นี่
สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญเสมอ และวันนี้ก็มาถึง ปี พ.ศ 2524 วันที่ราคาดีบุกโลกตกต่ำลง แร่เถื่อนทะลักเข้าสู่ตลาดดีบุกทำให้ปริมาณสต็อกดีบุกโลกมีมากเกินปริมาณการใช้ จนทำให้ราคาแร่ดีบุกถูกแสนถูก จนตลาดดีบุกใหญ่ๆ ทะยอยปิดตัวลงอย่างเป็นทางการหมด ไม่เว้นแต่ ตลาดดีบุกที่ภูเก็ตหรือปีนัง ในวันนี้นายหัว คนงานและคนเหมืองแร่ ได้ค้นพบอีกความจริงหนึ่งว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สำคัญขนาดไหน เพราะจากแร่สีดำมีมูลค่า กลับกลายเป็นเพียงเศษกรวดไร้ค่า ร้านค้าต่างๆที่เคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ค่อย ๆ เงียบเหงา มืดมิดลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ทุกประตูก็ปิดตาย
เล่ากันว่า ท้ายเหมืองครั้งเมื่อ 70 ปีก่อน ท้ายเหมืองอุดมสมบูรณ์มาก แนวชายหาดยาวเต็มไปด้วยกุ้งเคยและหอยปูปลา มากขนาดไหนคิดภาพเอาได้เลยว่าถึงขนาดจับปลาด้วยมือเปล่าได้เลย โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม ของทุกๆปี มันแปลกมากที่มีเต่าทะเลมากมายหลากสายพันธ์จะพร้อมใจกันขึ้นมาวางไข่ที่หาดแห่งนี้ ส่วนบรรดาสัตว์ป่า อาทิเช่นเก้งกวาง ลิง ค่าง หมีควาย เสือโคร่งลายพาดกลอนก็มีอยู่มาก ต่างมาเดินคราคร่าเต็มหาดทราย
วันนี้กาลเวลาผ่านไป ความอุดมสมบูรณ์ลดน้อยลง เต่าทะเลก็ลดน้อยลง ด้วยความสำนึกในบุญคุณถึงคุณค่าทรัพยากรเต็มเปี่ยม ในคราที่ฝูงเต่าทะเลมากมายมาวางไข่ จนเกิดเป็นธุรกิจสัมปทานไข่เต่าวางขาย จึงได้เกิดงานประเพณีสำคัญประจำปี คือ งานเทศกาลปล่อยเต่า ซึ่งมีการจัดขึ้นเป็นประจำในทุกปี เล่ากันว่า เต่าทะเลหากเกิดที่ใด พวกมันจะหวนกลับไปหาคู่ หรือ วางไข่ที่นั่น ดังนั้นสักวันเต่าทะเลที่เกิดที่ท้ายเหมือง จะต้องกลับมาอีกแน่นอน



สนใจติดต่อ บริษัท เอ็น จี เอ แทรเวล ไทย์แลนด์ ใบอนุญาติการท่องเที่ยว เลขที่ 34/00735
ที่อยู่ 9/22 หมู่ที่ 6 ถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 บ้านบางเนียง เขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา 82220

ช่องทางการติดต่อ
อีเมลล์: info@ngatravel.com
เบอร์โทร: 093 069 4059 หรือ 080 5330891

Facebook: NGA Travel Thailand
Instagram: ngatravelthailand
Line: 0805330891